ผมบ้าไปแล้วแหงๆ
นั่งเล่นกีตาร์(เพลงที่แต่งสมัยยังเล่นวงกับเพื่อน)น้ำตาไหลออกมาเฉยๆครับ
บางทีอาจจะปลอบใจว่าไม่เป็นไรไม่เศร้า เราอาจบ้าดนตรีคนเดียวก็ได้
แต่ตอนนี้ผ่านมาก็จะครบรอบสองปีที่เพื่อนเบนไปเข้าเส้นทางนักเรียนนักเลงปล่อยผมให้เพ้อฝันถึงเวทีประกวดประเภทวงระดับมปลายหลายๆเวทีอยู่คนเดียว
บอกตัวเองเสมอครับว่าสักวันเพื่อนจะกลับมาจับเบส จับกลองแล้วเล่นด้วยกันเหมือนก่อนแต่ผมได้แค่ฝันไปแหละครับ
พอมาช่วงนี้ได้อยู่คนเดียวเงียบๆนั่งหวนนึกวันเก่าๆจับกีตาร์มาบรรเลงเสมือนเพื่อนปลอบใจ แต่สุดท้ายก็เสียใจอยู่ดีครับ
แต่ไม่ว่าจะเริ่มเล่นกีตาร์เพราะตามเพื่อนหรือเพราะแฟนแต่เมื่อผิดหวังแล้ว ถ้าคุณลุกขึ้นยืนบนเส้นทางกีตาร์ได้อีกครั้งใจคุณจะมีกีตาร์ไปกว่าครึ่ง
ยกเอาความเศร้า ความเสียใจมาบรรเลงเป็นเพลงเสมือนเก็บความทรงจำเหล่านี้เอาไว้เป็นบทเพลงเก็บเอาไว้และสักวันเมื่อเป็นแบบนี้อีกเราก็หยิบเพลงในวันวานก่อนนั้นมาดูอีกครั้ง
และบรรเลงจากอารมณ์ บทเพลงบทนั้นจะสะเทือนอารมณ์ผู้เล่นและผู้ฟังจนอินไปกับเพลงของเรา
หลังจากนั้นคงมีสักวันแหละครับที่จะพูดอย่างเต็มปากเต็มคำด้วยความภูมิใจว่า กีตาร์เสมือนพี่น้องคนหนึ่งของเราเลย