เล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อ"ทฤษฎีดนตรี"
ในอดีตผมเป็นคนนึงที่มีความคิดต่อต้าน"ทฤษฎีดนตรี"เพราะคิดว่าไม่จำเป็น เรามารถสร้างหรือคิดเองได้.... โดยที่ยังไม่ได้ศึกษา"ทฤษฎีดนตรี"เลย
หลังจากนั้นผมก็เริ่มคลำหาทางของสเกลเอง
เสียเวลามากแต่ผมก็ทำได้....
แท้ที่จริงแล้ว... เมื่อผมทำได้มันก็เป็นแค่สเกลเมเจอร์ธรรมดา ธรรมดาสเกลหนึ่ง ที่มันมีอยู่แล้วบนโลกใบนี้......
มันเสียเวลามากที่ต้องคิดทำอะไรเอง... ทั้งๆที่มีคนอื่นคิดมาก่อนอยู่แล้ว.... ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ดังเช่น... ผมเก็บตัวอยู่ในห้องสองปี แล้วเดินออกมาพร้อมพัดลมไฟฟ้าเครื่องนึง..... เป็นพัดลมที่ผมคิดแล้วประดิษฐ์ขึ้นมาเอง....
มันจะมีประโยชน์อะไร.. ก็ในเมื่อทุกวันนี้มันก็มีพัดลมไฟฟ้าอยู่แล้ว.... นั่นเท่ากับว่าผมเสียเวลาเปล่า.....
แต่ถ้าผมนำพัดลมไฟฟ้าที่มีอยู่แล้ว... แล้วเอามาคิดต่อยอดปรับปรุงเป็นพัดลมที่ไม่ต้องเสียบไฟฟ้าเป็นพัดลมที่สามารถสร้างพลังงานให้ตัวมันเองได้ด้วยพลังงานกล..... นั่นคือผมได้ทำสิ่งมีอยู่แล้วเอามาต่อยอดพัฒนาให้มันดีขึ้น.... เกิดเป็นสิ่งใหม่ที่ดีกว่า
"ทฤษฎีดนตรี"ก็เหมือนกัน... เราอย่าไปเสียเวลาคิดอะไรเองเลย... โดยที่ยังไม่ได้ศึกษา"ทฤษฎีดนตรี"
เพราะอะไรที่คุณคิดได้.... มันมีคนคิดมาหมดแล้วเพราะดนตรีมันอยู่บนโลกใบนี้มาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว
และอีกหนึ่งความคิดในสมัยก่อนที่มีต่อ"ทฤษฎีดนตรี"ก็คือ.... มันจะไม่อิสละเพราะจะโดน"ทฤษฎีดนตรี"บังคับ... ผมเชื่อว่าหลายคนคิดแบบนี้... ผมคนนึงก็เคยคิดแบบนี้
จากนั้นพอผมเล่นไปแบบไม่รู้"ทฤษฎีดนตรี"เล่นไปเรื่อยๆ... จนวันนึง.. มันก็มาถึงทางตัน
ไม่รู้จะเล่นอะไรดี... เล่นทีไรก็โซโล่คล้ายๆเดิมๆทางเก่าๆเดิมๆ.. เริ่มไม่สนุกไม่มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเล่น
ต่อมา.... ผมก็วิ่งหนี...... ถลุยๆๆๆ
ต่อมา.... ผมก็เริ่มเปิดใจ... ทำใจยอมรับ"ทฤษฎีดนตรี"
แล้วก็เริ่มศึกษา"ทฤษฎีดนตรี"อย่างจริงจัง
เจอหนังสืออะไรที่เกี่ยวกับ"ทฤษฎีดนตรี"จะซื้อมาหมด... อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษก็ว่ากันไป
เจอวีดีโอสอน"ทฤษฎีดนตรี"ก็ซื้อมาดูคราวนี้เป็นภาษาไทยมีทั้งหมดสองชุดเป็นของ
อาจารย์ปราชญ์ อรุณรังษี
วีดีโอสองชุดนี้เป็นกุญแจดอกสำคัญในชีวิตการเรียนรู้"ทฤษฎีดนตรี"ของผมเลยก็ว่าได้
มันทำให้ผมคิดเป็นระบบ...
รู้พื้นฐาน
รู้ที่ไปที่มาของสเกล
รู้จักสเกลต่างๆ
รู้จักที่ไปที่มาของคอร์ด
รู้จักขั้นคู่เสียงประสาน
รู้จักอาเพจิโอ้
และอื่นๆอีกมากมาย
สิ่งที่เคยอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง... คราวนี้กลับไปอ่านก็สามารถเข้าใจได้โดยไม่ยาก
หลังจากนั้นผมก็ยังคงศึกษา"ทฤษฎีดนตรี"
มาเรื่อยๆ จนมาทุกวันนี้...
ถึงตอนนี้แล้ว... ผมยังแอบเสียดายเล็กๆว่าเราไม่น่าไปเสียเวลากับอีโก้ของตัวเองเลย..... ไม่อย่างนั้นวันนี้ผมน่าจะรู้อะไรมากกว่านี้....
ในอดีตเวลาจะคิดลูกโซโล่ตอนคอร์ดส่งเป็นพวก7
เช่นE7... เมื่อก่อนต้องนั่งเล่นไปเรื่อยๆเพื่อที่จะหาเสียงนั้นให้เจอ.... กว่าจะเจอก็เล่นเอาเหนื่อย...
แต่ถ้ารู้"ทฤษฎีดนตรี"เราจะไม่เสียเวลาเลย
เราจะรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเอาดีมีนีชสเกลมาเล่นอย่างนี้เป็นต้น
เราจะเล่นแบบโฟกัสโน้ตได้
นั่นทำให้เวลาเราเล่นด้นสด
เราจะสามารถวางแผนได้ว่า
ช่วงไหนจะใช้สเกลไหนเล่น
ช่วงไหนจะใช้อาเพจิโอ้เล่น
เราจะเล่นด้วยความมั่นใจ
เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่เราเล่นอยู่... คืออะไร
(แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของคำว่าดนตรี
ไม่ใช่เอาแบบฝึกหัดมาเล่น)
มันดีกว่าเล่นไปเรื่อยเปื่อย
เล่นไปโดยไม่คิด... เล่นแล้วมันจะตัน
สรุปว่า
อยากให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
ได้ลองศึกษา"ทฤษฎีดนตรี"ดูบ้าง
แล้วจะพบความเปลี่ยนในการเล่นของตัวเอง
จะอิสละมากขึ้น... มั่นใจมากขึ้นแน่นอนครับ
ขอให้สนุกกับการเล่นดนตรีนะครับ
FOTOBEER