หัวข้อ: กีตาร์ที่ให้เสียง overtone เยอะ มันเป็นยังไงครับ

[smart2011]

อ่านดูหลายๆตัว แต่ยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นแบบไหน

[Kai Acoustic™]

ถ้าแนว strum อาจจะต้องการ overtone เยอะหน่อย แต่อาจไม่เหมาะกับแนว Finger style  ลองดูคลิปนะครับ อาจพอช่วยให้เข้าใจได้

! No longer available

! No longer available

[กฤษณ์]

Overtone คือความถี่เสียงที่สูงกว่าความถี่พื้นฐาน (fundamental frequency) ถ้า overtone เป็น multiple ของความถี่พื้นฐานเขาเรียกว่า harmonic frequency ครับ

<a href="http://youtu.be/XPbLYD9KFAo" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/XPbLYD9KFAo</a>

ในเครื่องดนตรีต่างชนิดกันจะมีความดังและ sustain ของ harmonic frequency แต่ละช่วงไม่เท่ากัน ดังนั้นเราจึงสามารถแยกเสียงออกใด้ว่าเป็นเครื่องดนตรีชนิดไหน การผสมผสานกันของ harmonic นี่เขาเรียกว่า timbre (แทมเบอร์) ครับ แม้แต่เสียงของคนสองคนหรือกีตาร์สองตัวก็จะมี timbre ต่างกันครับ

ถ้าดูจากตลิปข้างล่างจะเห็นใด้ว่ากีตาร์โปร่งนั้นมี overtone น้อยกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่น ถ้าตัวไหนมี overtone เยอะก็คงเสียงคล้ายเปียโนมั้งครับ

<a href="http://youtu.be/VRAXK4QKJ1Q" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/VRAXK4QKJ1Q</a>

ผมว่าเจ้าของกระทู้น่าจะต้องการถามเรื่องของ amplitude/time หรือที่เราเรียกกันว่า sustain มากกว่าหรือเปล่าครับ

[smart2011]

ขอบคุณครับ เข้าใจอยู่ซักหน่อย ^^

[กฤษณ์]

ขอบคุณครับ เข้าใจอยู่ซักหน่อย ^^

ผมก็เข้าใจแค่งูๆปลาๆเหมือนกันครับ คงจะต้องให้น้าๆที่จบเอกทางดนตรีมาช่วยตอบเรื่องนี้

เรื่องกีตาร์นั้นผมคิดว่าเรื่องความยาวและความนิ่งของเสียง overtone น่าจะมีผลกับลักษณะ (character) ของเสียงมากกว่าเรื่องของความดัง (amplitude) กีตาร์ที่มี overtone สั้นจะมีเสียงที่กระชับมากอย่างเช่น Gibson L-1 ในคลิปข้างล่าง

<a href="http://youtu.be/EcjLZQlxVME" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/EcjLZQlxVME</a>

กีตาร์ที่มี overtone ยาวสุดไม่ใช่ Lowden แต่เป็นกีตาร์ resonator ครับ เสียงสไตล์นี้ถ้าเล่นไม่เก่งจะค่อนข้างรกเพราะโน้ตที่เล่นไปแล้วมันไม่รีบร้อนหลีกทางให้โน้ตตัวใหม่

<a href="http://youtu.be/7WjkEP6re5A" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/7WjkEP6re5A</a>

กีตาร์ solid top/solid back นั้นไม้หลังจะสั่นไปพร้อมๆกับไม้หน้าทำให้มี overtone เยอะกว่ากีตาร์ solid top/laminated back ที่ไม้หลังจะไม่ใช่ตัวกำเนิดเสียงแต่ทำหน้าที่เป็นแผ่นสะท้อนเสียงเท่านั้น

กีตาร์สองตัวนี้โครงสร้างเหมือนกัน 100% ตัวหนึ่งเป็น solid top อีกตัวเป็น all solid ลองฟังดูเองครับว่าแยก overtone ที่ละเอียดกว่าของ all solid ออกไหม

<a href="http://youtu.be/rjUp186OC4c" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/rjUp186OC4c</a>

<a href="http://youtu.be/oLHSzTdyh5o" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/oLHSzTdyh5o</a>

[12strings]

น้ากฤษณ์ครับ แล้ว amplitude/time หรือ sustain
จะขึ้นกับอะไรครับ เช่นทรงกีตาร์ ชนิดของไม้ ฯลฯ มาขอความรู้ครับ

[กฤษณ์]

น้ากฤษณ์ครับ แล้ว amplitude/time หรือ sustain
จะขึ้นกับอะไรครับ เช่นทรงกีตาร์ ชนิดของไม้ ฯลฯ มาขอความรู้ครับ

เรื่อง sustain กีตาร์โปร่งนี่ขนาดคนสร้างกีตาร์เองเขายังยอมรับว่าไม่มีใครรู้จริงครับ ที่แน่ๆคือมันขึ้นอยู่กับมวลของส่วนที่ให้กำเนิดเสียงอย่างสายกีตาร์ และไม้หน้า ความแข็ง (stiffness) ของส่วนที่ถ่ายทอดเสียงอย่างเช่น nut, saddle, bridge plate, ไม้ข้างและไม้คอเป็นต้น

เท่าที่พอสรุปใด้ก็มี

1. สายเบอร์ใหญ่ sustain ยาวกว่าสายเบอร์เล็ก
2. Bone nut และ saddle sustain ยาวกว่าพลาสติกหรือ tusq
3. กีตาร์สเกลสั้น sustain ยาวกว่ากีตาร์สเกลยาว

[YrMythz]

เกลสั้นคือ ย่อ 15/16 7/8 3/4 หรือที่แยกเป็น 12fret   14fret ครับน้ากฤษณ์

[12strings]

ขอบคุณครับน้ากฤษณ์  ได้ความรู้เยอะเลยครับ
น้ากฤษณ์เฉลยให้หน่อยครับตัวไหน all solid
ผมคิดว่าตัวล่างครับ

[กฤษณ์]

เกลสั้นคือ ย่อ 15/16 7/8 3/4 หรือที่แยกเป็น 12fret   14fret ครับน้ากฤษณ์

สเกลสั้นคือ 24.75" (Gibson) หรือ 24.9" (Martin) หรือ 24 7/8" (Taylor) สเกลยาวคือ 25.4" (Martin)  หรือ 25.5" (Gibson, Taylor) เหตุผลก็คือสเกลยิ่งสั้นสายยิ่งตึงน้อยลงทำให้สายสั่นนานขึ้นครับ

[กฤษณ์]

ขอบคุณครับน้ากฤษณ์  ได้ความรู้เยอะเลยครับ
น้ากฤษณ์เฉลยให้หน่อยครับตัวไหน all solid
ผมคิดว่าตัวล่างครับ

ถูกต้องครับ

[h5555]

ได้ความรู้มาอีกเยอะเลยครับ  ขอบขอบคุณข้อมูลดีจากจากน้ากฤษณ์และท่านเจ้าของกระทู้ครับ