Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: ขากีต้าร์คลาสสิคมาม๊ะ มาอ่านบทความดีๆกัน คุณ สมบัติที่ดีของกีต้าร์ และการกลายพัธ  (อ่าน 6689 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
นับเป็นบทความที่ดีมากครับ  ที่ให้ความรู้กับผมมากๆ 
ช่วยให้ โลกทัศน์  ได้เปิดกว้างขึ้น
แต่ก็อาจมีบางเรื่องที่ผม ไม่เห็นด้วย ซึ่งไม่ขอกล่าวถึง
เชิญเก็บเกี่ยวในสาระที่สำคัญครับ สำหรับ ผู้ที่รักกีต้าร์คลาสสิค
แบบ เกือบ จะเจาะลึก  ถึง แก่น ต้นกำเนิดของมัน


อ่านกันเพลินให้ ตา แฉะ ล๊ะกัน




บทนำ : ผมจะบทความในชุดนี้ที่พยายามเขียนขึ้น เพื่อให้ความรู้จากประสบการณ์ (ที่ยังถือว่าไม่มากนัก) ของผมเอง เพื่อเป็นแนวคิดสำหรับนักกีต้าร์ที่สนใจเรื่องคอนเสิร์ตกีต้าร์ เริ่มด้วย คุณลักษณ์ทั่วไปที่ต้องมี ต่อด้วย ความเข้าใจหรือความรู้ผิดๆ ที่พบกันมากโดยเฉพาะในหมู่นักกีต้าร์ไทย จากนั่น จะเล่าถึงประสบการณ์กับกีต้าร์ระดับซุปเปอร์กีต้าร์ที่มีประทับอย่างยิ่ง จบด้วยบทที่เกี่ยวกับความเห็นของผมในโอกาสของคนไทยที่จะกีต้าร์ดีราคาเหมาะสม และ Class การทำกีต้าร์โดย Romanillos ในสเปน กับผลงานที่ได้

อย่างที่ได้เคยแปลบทความสองสามบทความเกี่ยวกับเรื่อง คอนเสิร์ตกีต้าร์ ซึ่งเขียนโดยช่างทำกีต้าร์ระดับชั้นนำของอเมริกา เช่น John Gilberts, Thomas Humphrey และ Thomas Prisloe หลังจากที่ได้อ่านมากมาย มากกว่าสามบทความที่แปล และมีประสบการณ์กับกีต้าร์ระดับคอนเสิร์ตกีต้าร์มากขึ้น ทั้งที่เป็นของส่วนตัวเอง และของเพื่อนๆ และนักกีต้าร์ที่เข้ามาแสดงที่เขายินดีให้เล่น ในส่วนตัวเองนั้น เนื่องมาจากความอยากรู้อยากเห็น และโอกาสที่ได้หยิบยื่นมาให้และความพยายามหามาเอง ผมจึงพยายามหากีต้าร์ในแบบที่แตกต่างกัน ใช้วัสดุที่ต่างกัน มาจากที่ๆ ต่างกัน (ประเทศหรือทวีป) วันนี้ผมคิดว่า ประสบการณ์อันน้อยนิดของผมน่าจะพอเพียงที่จะมาแบ่งปันให้เพื่อนนักกีต้าร์คนไทยด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่ากับผู้รู้บางคนที่ไม่อยากเปิดเผยตัว

คุณสมบัติอะไรที่ทำให้กีต้าร์ จัดอยู่ในระดับคอนเสิร์ตกีต้าร์ได้ ขอให้กลับไปอ่านบทความที่เขียนโดย John Gilberts และ บทสัมภาษณ์ Thomas Humphrey และอีกหลายบทความที่กระจัดกระจายตาม website ต่างๆ แต่สรุปว่า กีต้าร์ที่จัดเป็นคอนเสิร์ต ต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน แต่จะมากน้อยต่างๆ กัน (ต้องมากพอที่เห็นได้ชัดนะครับ) เมื่ออ่านและเข้าใจแล้ว ถือว่ามีความรู้ขั้นทฤษฎีพอสมควร แต่ขั้นปฎิบัตินี่คงทำได้ยาก เพราะในเมืองไทย ถึงแม้ว่าจะมีกีต้าร์ดีๆ หลายตัว แต่โอกาสที่จะได้เล่นมันคงมีน้อย เพราะถ้าไม่รักกันจริงคงไม่มีทางครับ แต่ขณะนี้มี บริษัทฯ ที่นำเข้ากีต้าร์ยี่ห้อดังจากแมดริด ที่เขายินดีให้ลอง (หายากนะครับที่คนขายใจกว้างจะให้ลองแบบจริงๆ จังๆ) และผมยืนยันว่ากีต้าร์ที่เขาให้ลองมีคุณสมบัติเป็นคอนเสิร์ตกีต้าร์แน่นอนเพราะได้ลองแล้ว และได้ยินมาว่าสร้างความฮือฮาได้ในเมืองไทย (แต่สำหรับผมแล้ว ก็ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตกีต้าร์ที่ดีอีกตัวหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน อย่างตัวอื่นๆ ที่ผมมีอยู่ หรือได้เคยเล่นมา ยกเว้นพวกซุปเปอร์กีต้าร์ที่เหนือกว่าคอนเสิร์ตกีต้าร์ทั่วไป)

คุณสมบัติเหล่านี้ กีต้าร์แต่ละตัวอาจมีไม่เท่ากันนัก อะไรเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องผ่านก่อน ในทัศนะคติของผม คือเรื่อง Clarity ซึ่งก็คือเรื่องเดียวกับ Separation นั่นเอง เพราะหากไม่มี Clarity กีต้าร์ตัวนั้นก็คงไม่มี Separation ของ Voice ได้ อันดับต่อมาที่สำคัญพอๆ กันคือ Balance คุณไม่สามารถเล่นกีต้าร์ที่ขาดความ Balance ได้ เพราะเสียงของคอร์ด หรือโน้ตที่เล่นพร้อมๆ กัน หรือไม่พร้อมกัน แต่มาประสานเสียงกัน ย่อมไม่เสมอ หรือไม่สามารถเล่นให้เสมอกันได้ อย่างที่มันควรจะเป็น อันดับต่อไป คือ Projection อันต้องขอยืนยันว่า มันคนละเรื่องกับ Loudness แต่ดูเหมือนเป็นเรื่องเดียวกัน สุดยอดกีต้าร์บางตัว ถ้าคุณนั่งใกล้ คุณอาจจะบอกว่านี่หรือกีต้าร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่หากคุณนั่งมาไกลสัก 5-10 เมตร มันเหมือนราวกับว่ากีต้าร์ตัวนี้มาเล่นอยู่ตรงหน้าคุณ มันเป็นเรื่องอัศจรรย์และไม่น่าเชื่อ แต่ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง กีต้าร์บางตัวคนเล่นรู้สีกว่ามันดังมาก แต่นั่งออกมาสัก 5 เมตร คนฟังก็ไม่ค่อยได้ยินเท่าไรก็มี <ดู Note 1>ต่อมา Sustain อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก ยิ่งนานยิ่งดี แต่ถ้านานเกินไปมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีนักเพราะถ้าหากไม่หยุดเสียงไว้ โดยเฉพาะส่วน Treble ที่หยุดยากกว่า Bass เรื่องต่อไปคือ Timbre หรือ Tone นี่เป็นสิ่งที่กีต้าร์แต่ละตัวจะต่างกัน เป็นเรื่องบอกได้ยากว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ความชอบดังเดิมของแต่ละคน แต่กีต้าร์ที่ดีต้องมี Timbre ที่สวยงามครับไม่อย่างไรก็อย่างหนึ่ง ส่วน Intonation ผมบอกได้เลยว่า หา กีต้าร์ที่มี Perfect Intonation ได้ยากมากๆ แค่ใกล้เคียงหรือเพี้ยนนิดๆ คงถือว่าผ่านได้ แต่ถ้าเพี้ยนมากๆ ไป แปลว่าช่างกีต้าร์นั้นมีความละเอียดในการทำน้อย ช่างที่ได้ชื่อว่าทำกีต้าร์มี Intonation ที่ดีที่สุดคือ Paul Fisher โดยมีสัญญลักษณ์ของเขาเป็นเวอร์เนียร์ครับ [ผมเลยอยากแนะนำช่างไทยว่าเครื่องมือวัดของช่างทั้งหลาย ควรจะนำไปคาร์ลิเบตด้วย เพราะผมซื้อตลับเมตรมาพร้อมกันรุ่นเดียวกัน มันไม่เคยตรงกันเลย!!!] อันนี้กีต้าร์รุ่นโบราณๆ หน่อย เช่น Torres หรือ Hauser Sr. นั้น อาจมีปัญหาเรื่อง Intonation มากกว่ารุ่นปัจจุบัน เพราะสมัยนั้นสายกีต้าร์ยังเป็นแบบ Gut ไม่มี Nylon ที่ให้ Intonation ได้แม่นกว่า (สายที่ Intonation แม่นที่สุด และนิยมมากที่สุดในการใช้ทำกีต้าร์ของช่างกีต้าร์ชั้นนำหลายๆ คน คือ D'Addario EJ45 กับ EJ46 ครับ)

คุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้เป็นพื้นฐานที่ คอนเสิร์ตกีต้าร์ ต้องมี แต่ที่สำคัญกว่านั้น นักกีต้าร์ก็ต้องมี "หู" และประสบการณ์พอเพียงที่จะแยกแยะได้ว่า กีต้าร์ที่ธรรมดา ที่ดี ที่ดีมาก และที่วิเศษ มันต่างกันอย่างไร ดังเช่นที่ อาจารย์ M.Sakurai บอกกับผมในงาน Festival 2004 ว่าคุณสมบัติประการแรกของช่างทำกีต้าร์คือ "หู" ถ้าหากแยกไม่ออกว่ากีต้าร์ที่ดี กับ ดีมาก และดีเยี่ยม มันต่างกันอย่างไร ก็คงเป็นช่างทำกีต้าร์ที่ดีไม่ได้ อ.Sakurai ตอบคำถามผมที่ถามว่า หลังจากยุคของอาจารย์แล้วจะมีใครทำต่อหรือไม่ อ.Sakurai ตอบว่าคงไม่มี เพราะลูกชายคนเดียวเขาเองก็ไม่มี "หู" ที่ดีพอและความสนใจสำหรับการเป็นช่างทำกีต้าร์ที่ดี

ยังมีต่อ


--------------------------------------------------------------------------------

Note 1: Paul Fisher ที่ทำในรูปแบบดั้งเดิมอย่างในสมัยที่อยู่กับ David Rubio นั้นหากฟังใกล้หรือตัวผู้เล่นเองอาจไม่รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของมัน แต่อยู่ในห้อง ใหญ่ๆ นี่มันเต็มห้องเลยครับและโทนเสียงดีมาก ปัจจุบัน David Rubio ยังเป็นที่ต้องการของนักสะสม (และมีนักกีต้าร์ชาวต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทย มี อยู่ตัวหนึ่งที่เขาไม่อยากให้บอกใคร แต่ผมก็ไม่เคยเห็นและสัมผัส) ส่วนนักกีต้าร์ที่มี David Rubio - "PF" ที่โด่งดังและเคยมาเล่นเมืองไทยถึงสองครั้ง (แต่ไม่ได้นำ "PF" มาด้วย เอา Roemmich มาเล่นแทน เพราะ David Rubio "PF" ที่เขามี มันมีคุณค่ามากกว่าจะพาไปไหนมาไหน และคงหาทดแทนไม่ได้แล้ว) คือ the great Pavel Steidl ประสบการณ์ที่บอกว่า มันดังเต็มห้อง ก็คือ นักแข่งกีต้าร์ชาวญี่ปุ่นที่มาจากฝรั่งเศส (Festival 2004) เล่นแข่งแล้วผมประทับใจมากๆ ในเสียงกีต้าร์ของเขามากๆ เพราะมันดังเต็มห้องน้องๆ Ian Kniepp ของ Hugo Gellar แต่โทนเสียงที่ไพเราะจับใจ จนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถาม เขาบอกว่าเขาเล่น David Rubio "Paul Ficher" แต่ตัวนั้นเป็น Cedar นะครับ อีกครั้งก็คือ ตอนที่เป็นได้รับเกียรติจาก อ.โน้ต ณัฐวุฒิ ให้เล่น Duet คู่กันสองเพลงที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในห้องที่จุคนดูได้ประมาณ 200-300 คน ในรอบเย็นผมนำเอา Paul Fisher '83 ไปเล่น หลังแสดงเสร็จ ลูกศิษย์คนโปรดหนึ่งเดียวของผม (ปัจจุบันเป็นครูกีต้าร์ที่โรงเรียนยามาฮ่าหาดใหญ่) เขามาถามถึงกีต้าร์ผม บอกว่ามันดังและไพเราะมาก (แต่ผมคนเล่นไม่ได้รู้สึกว่ามันดังมากอย่างนั้นเลย ไม่ว่าที่บ้านหรือบนเวที) และขอลองเล่น แต่เล่นแล้วคงรู้สึกแปลกใจที่มันไม่เหมือนฟังในห้องประชุม ผมบอกว่ามันเป็นแบบนี้แหละ เพราะเขาสร้างเพื่อเป็นกีต้าร์ที่ไว้เล่นในห้องแสดงจริงๆ


--------------------------------------------------------------------------------
Last Update: Nov.03, 2007
Copyright 2007: Siamguitarra [สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย]
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
สิ่งที่นักกีต้าร์ไทยเข้าใจผิดมากที่สุด คือ กีต้าร์ที่ดีๆ ต้องทำใน สเปน จริงอยู่ว่ากีต้าร์ที่ดีๆ มีมากมายในสเปน แต่ที่ดีที่สุดมาจาก สเปน นั้น ถ้าพูดภาษาอังกฤษ ก็ต้องบอกตรงๆ ว่า "Bullsh*t" ครับ ยิ่งไปกว่านั้น การเชื่อว่ากีต้าร์ที่ดีที่สุดของสเปน มาจาก แมดริด อันต้องบอกตรงๆ อีกว่า "Super Bullsh*t" ปัจจุบัน เมืองที่มีช่างทำกีต้าร์เก่งๆ อยู่กันมากที่สุดในโลก เป็นศูนย์รวมช่างทำกีต้าร์นานาชาติเลยก็ว่าได้ มีทั้ง สเปน เยอรมัน อิตาลี อเมริกัน อังกฤษ ฯลฯ คือ Granada ครับ เพราะช่างที่นี่ดูเหมือนจะไม่หวงความรู้ ก็อาจเป็นเพราะว่า Antonio Marin Montero ช่างที่โด่งดังที่สุดของที่นี่ ได้รับการถ่ายทอดความรู้ขั้นสุดยอดจาก Robert Bouchet ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสนั่นเอง ทำให้เขามีความใจกว้างที่จะแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นๆ ก็เป็นได้

อีกประการหนึ่งที่เข้าใจผิดมาก และอาจเป็นทั่วโลกเลยก็ได้ ว่า Brazillian Rosewood เป็นไม้ที่ทำกีต้าร์ที่ดีที่สุด อันนี้ผมบอกได้ว่าไม่เกี่ยวเลยครับ รู้แต่ว่าเรื่องจริงคือ Brazillian Rosewood ทำกำไรให้ช่างทำกีต้าร์และดีลเลอร์ได้มากกว่า ช่างชั้นนำที่สุดของโลกแบบใช้ไม้อะไรทำคนก็เข้าคิวซื้อ อย่าง Fleta, Friederich, Jose L.Romanillos ทราบดีว่าคุณภาพ Brazillian ตั้งแต่ยุค 1970 เป็นต้นมา นั้นหาคุณภาพดีๆ ได้ยาก ถ้าหากเราย้อยไปดูกีต้าร์ดีๆ ในยุค 1950s ที่ทำด้วย Brazillian Rosewood ของแท้หรือ Jacaranda นั้นมันมีลายในแนวตรง คล้ายหรือเหมือนกับ Indian Rosewood แต่สีหรือลายต่างกันบ้าง ชนิดที่บางทีแยกไม่ออกเหมือนกัน นี่คือ Jacaranda ที่เหมาะสมที่สุดในการทำกีต้าร์ครับ ส่วนในแบบที่บรรดา dealers หรือ makers บางคนพยายามทำให้เชื่อว่า (และได้ผล 99% เลยผมว่านะ) Brazillian แบบลายมากๆ นั้นดีที่สุด เดี๋ยวนี้ผมอ่านที่ไร ก็ได้แต่อมยิ้ม เป็นเรื่อง "Bullsh*t" ที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น Indian Rosewood คุณภาพดีที่สุดในปัจจุบัน (จริงๆ ตั้งหลายสิบปีแล้ว) จึงเป็นไม้ที่เหมาะสมกว่า Brazillian ทั้งหลาย (เว้นแต่คุณสามารถหาไม้ในรุ่นยุค 1950s หรือก่อนหน้านั้นได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะดีกว่า Indian Rosewood คุณภาพสูงนะครับ) แต่การเปลี่ยนความเชื่อของคนเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะ "ค่า" ที่นักกีต้าร์ให้กับมัน ดังนั้นทำตามที่ตลาดต้องการดีกว่า แล้วได้กำไรมากกว่าด้วย ถ้าช่างนั้นๆ เก็บไม้สะสมไว้มากมาย [คุณทราบหรือไม่ว่า Karl Roemmich กีต้าร์ที่ Pavel Stiedl เอามาใช้ใน Festival 2004 ทำด้วย Indian Rosewood!!!] ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเขียนไว้ว่า Manual Velasquez ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่ากีต้าร์ที่ดีที่สุดที่เขาทำ ทำด้วยไม้ Mahogany ครับ (แต่ที่ทำ Brazillian เพราะขายง่ายได้ราคาดีกว่า และเขามีไม้ Jacaranda เก่าที่ตัดมาจากซากเรือโบราณ ที่เขาซื้อมายุค 1950s อีกมากมาย ใช้ไม่หมดถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน)

ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
ซุปเปอร์กีต้าร์ ที่ผมได้มีโอกาสเล่นและฟัง (แต่คงไม่มีปัญญาซื้อครับ) เพราะราคาปัจจุบันอยู่ในระดับ US$30,000-40,000 ขึ้นไป [แต่ถ้าเป็นราคาที่สั่งทำล่วงหน้า แล้วรอคิวอีกสัก 10-15 ปี ได้ยินมาว่า Fleta จะได้ในราคา US$20,000 หรือ Liam Romanillos ประมาณ UKP8,000 หรือ US$20,000 และเราจะต้องเข้าใจว่า กีต้าร์เหล่านี้ไม่ใช่กีต้าร์ที่ทำใน Workshop, Fleta จะทำคู่กันในระหว่างพี่น้อง แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันจะเป็นอา-หลานแล้ว ส่วน Liam ทำคนเดียว อาจมี Jose ผู้พ่อช่วยเป็นบางครั้ง กีต้าร์ Luthier แบบทำคนเดียวหรือทำคู่ จะได้เพียงอย่างมากที่สุด ไม่เกิน 16-24 ตัวต่อปี และสังเกตุได้ว่ามักจะ "ไม่มีรุ่น" ให้เลือก แต่เลือกไม้และวัสดุอุปกรณ์ได้ซึ่งอาจต้องเพิ่มเงินด้วย กีต้าร์แบบตระกูลแมดริดหลายยี่ห้อ เช่น Ramirez, Bernabe, Contreras, และจากญี่ปุ่นเช่น Kohno-Sakurai หรือจากสหรัฐฯ เช่น Kenny Hill ก็เป็นกีต้าร์ที่ทำให้ลักษณะ "Workshop" ครับซึ่งสามารถทำได้ปีละเป็นร้อยตัวขึ้นไป]

อันดับแรกครับ Fleta 1986 ซึ่งเดิมเป็นของโปรชาวเยอรมันมาก่อน ตัวนี้เป็น Cedar/Indian RW และเป็นตัวที่ทำให้ผมเข้าใจเรื่อง "Bullsh*t" อีกประการหนึ่ง ก็คือว่า ไม้ทำกีต้าร์ที่ดีที่สุดคือไม้เกรด "AAA" ไร้สาระมากครับ ผมต้องบอกว่าไม้เกรดไหนก็ได้ที่ดีพอสำหรับทำกีต้าร์ ช่างทำกีต้าร์เก่งๆ ทำได้ออกมาดีหมดครับ เพราะช่างระดับนั้นย่อมรู้ดีว่าจะปรับแต่งอย่างไรให้เหมาะกับไม้ชิ้นนั้นๆ แต่แน่นอนครับไม้เกรดสูงๆ นั้นย่อมขายได้ง่ายกว่าและได้ราคาดีกว่า, Fleta มีเสียงที่เข้มแข็งแต่ไพเราะมากๆ และต้องการคนที่นิ้วแข็งแรงทั้งซ้ายและขวาในการขับเคลื่อน และต้องมีเทคนิคการเล่นมือขวาที่ดีเยี่ยม เสมือนหนึ่งลำโพงชั้นดีเยี่ยมแต่ต้องขับด้วยแอมป์กำลังสูงนั่นเอง (พูดง่ายๆ ว่ามันเล่นยากนั่นเอง โดยเฉพาะนักเล่นกีต้าร์ในยุคใหม่ที่เทคนิคไม่เหมาะกับกีต้าร์ในแบบ Fleta) ความวิเศษของมันคือ มีเสียงออกมาเหมือนกับ ดอลบี้เซอร์ราวด์ หรือ "THX" อะไรประมาณนั้น

ต่อมาที่ประทับใจมาก และเล่นง่ายมาก คือ Hauser II 1980 (German Spruce/Brazillian RW) มันเป็นกีต้าร์ที่วิเศษมากๆ เสียงคล้ายหรือเรียกได้ว่าแบบเดียวกับ Hauser Sr.1940 ที่ Julian Bream เล่นใน DVD แผ่นสุดท้ายของท่านเลย เบสที่ลึกแต่มีพลังและความซับซ้อนในตัว ส่วน Treble นั้นเสียงไพเราะจับใจ ไม่มีความกระแทกกระทั้นอย่างที่กีต้าร์ในแบบ Fan Bracing มีเลย โน้ตตัวสูงๆ (สายหนึ่งเกิน fret 12 ขึ้นไป) มี sustain ที่ยาวนานและความซับซ้อนอย่างยิ่งยวดเกินว่าจะบรรยายเป็นตัวหนังสือ มันเป็นกีต้าร์ที่เยี่ยมที่สุดที่ผมเคยเล่นในชีวิต สิ่งเหล่านี้ยากยิ่งนักที่จะถูกบันทึกลงในสื่อไม่ว่าเป็นเทปอนาล๊อกหรือดิจิตอล (มันบันทึกไม่ได้ครับ) ผมเลยมีความเข้าใจ ความรู้สึกของท่านเซโกเวีย ในตอนที่ Hauser ของท่านได้สูญเสียคุณสมบัตินี้ไป แม้กระทั่งเมื่อท่านนำไปให้ Jose Ramirez III ซ่อม มันก็ไม่กลับมา (แต่ทำไมท่านไม่นำมันไปให้ Hauser Jr ซ่อม นี่เป็นสิ่งที่ผมสงสัย หรือว่า สงครามโลกสองครั้งทำให้ท่านไม่พอใจชาวเยอรมัน อันนี้ผมเดาครับ) จากคอนเสิร์ตกีต้าร์ที่ผมมีอยู่ทั้งหมด ตัวที่มีเสียงไพเราะที่สุดในช่วงดังกล่าว ยังไม่สามารถเทียบได้เลย ถึงแม้มันจะดีมากแล้วก็ตาม Hauser ไม่ใช่กีต้าร์ที่มีเสียงดังมาก แต่คุณภาพเสียงนั้นเกินบรรยายครับ เจ้าของกีต้าร์บอกกับผมว่าตอนแรกๆ ที่ได้มาใหม่ หลายปีทีเดียวที่เขาผิดหวังกับเสียงมันมาก เพราะเสียง treble แข็งมาก จนกระทั่งเมื่อมัน "เปิด" แล้ว มันคือเสียงจาก "สวรรค์"

ยังมีกีต้าร์อีกหลายตัวที่ผมได้มีโอกาสเล่น และประทับใจมาก แต่ยังไม่ถึงระดับสองตัวที่ว่า และหวังว่าสักวันผมคงได้มีโอกาสเล่นกีต้าร์ที่กล่าวขวัญที่สุดอีกสามสี่ตัว อาทิเช่น Antonio de Torres, Hauser Sr., Robert Bouchet, Manuel Velasquez, และ Jose L.Romanillos.

ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
ผมคิดว่าช่างเก่งๆ มีมากมายกระจัดกระจายไปทั่วโลกนอกเหนือจาก สเปน ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน อังกฤษ หรือ สหรัฐอเมริกา แม้กระทั่งในญี่ปุ่นเองก็ตาม เนื่องจากในภาวะการณ์ปัจจุบัน ทั้งเงิน US$ และ JPY อ่อนมากเมื่อเทียบกับเงินบาทไทย แต่เงิน EURO และ UKP นั้นแข็งเหมือนเดิม ผมจึงคิดว่า ถ้าหากใครจะซื้อกีต้าร์น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะหาจาก สหรัฐอเมริกา

ประสบการณ์ที่ผมมีจากกีต้าร์สหรัฐจากช่างในระดับแนวหน้า ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่าช่างในยุโรปเลย ผมคิดว่ามันมี Tone ในแบบ Spanish มากกว่า Northern Europe แบบกีต้าร์อังกฤษหรือเยอรมันเสียอีก แต่ก็ขึ้นกับว่าช่างคนใด มีความชอบแบบใด อย่างที่เคยได้สื่อสารกับ Kenny Hill ซึ่งผมถือว่าเป็นหนึ่งในช่างเก่งมากคนหนึ่งเลยทีเดียว (ดู Note 1) ตอนที่ผมสนใจกีต้าร์ Paul Fisher Taut Model ของเขาที่ประกาศขายในราคาที่น่าซื้อมากๆ (แต่ผมก็ตัดใจซื้อไม่ได้ น่าเสียดายโอกาส) ซึ่งผมคิดว่าเขาซื้อมาเพื่อศึกษาแนวคิดของ "Taut" ผมได้ถาม อ.Hill ว่าทำไมเขาไม่ทำกีต้าร์แบบ Taut เขาบอกว่าเขาสามารถทำได้ แต่รสนิยมของเขาคือ Ramirez รุ่นเก่าๆ 1950s คือก่อนยุค Ramirez III ดังนั้น Hill Signature ในรุ่นดั้งเดิม หรือ Nomex รุ่นแรกๆ นั้น เขายังทำเสียงในแบบ Ramirez 1950s รุ่นเก่าๆ อยู่ แต่เนื่องจากคุณสมบัติบางประการของ Nomex ทำให้เขาเปลี่ยนมาใช้ Bracing แบบ Miguel Rodriguez ซึ่งอาจเหมาะสมกว่าสำหรับ Nomex

สำหรับช่างทำกีต้าร์ในอเมริกาที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ บางคนก็ยังมีราคาไม่แพง บางคนก็แพงชนิดจับแทบไม่ลงนั้น ซึ่งสามารถดูได้จาก Richard's Notable American Luthiers (ผมทำ link ไว้ให้ใน หน้า links นานแล้วครับ) ผมคิดว่ากีต้าร์เหล่านี้คงมีคุณสมบัติเป็นคอนเสิร์ตกีต้าร์ได้ทุกตัว เพียงแต่คุณจะชอบลักษณะเสียงของมันหรือเปล่าเท่านั้น

ส่วนช่างรุ่นใหม่มาแรง เท่าที่ทราบคือ Joshua A.French อยู่ที่เมือง Houston, Texas ซึ่งได้มีโอกาสไปเรียนกับ Romanillos ที่ Siguenza ในปี 2002 ปัจจุบันเริ่มมีชื่อเสียงบ้างแล้ว มี waiting list ประมาณ 18 เดือน ราคาก็ขยับขึ้นมาจาก US$ สองพันปลายเมื่อสองปีก่อน มาเป็น สามพันปลายๆ (ในรุ่นมาตรฐาน) เท่าที่ได้อ่านมาจากคนที่ลองหรือได้เป็นเจ้าของ ดูเหมือนว่าเขาจะทำได้ดีมาก ถ้าหากเขาทำได้เหมือนหรือดีกว่ากับสิ่งที่เขาได้เรียนมาจาก Romanillos ผมว่าคุ่มค่ามากครับในราคานี้ ผมว่าอีกไม่เกินสองปี ราคาอาจขยับมาเป็น US$5000+ ก็เป็นไปได้

ถึงตรงนี้อยากจะขยายความในจุดนี้ คือ Jose L.Romanillos ที่เป็นสุดยอดช่างทำกีต้าร์ในแบบ Torres หรือ Hauser หนึ่งในสองคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ มีความใจกว้างมากที่เปิดสอนช่างทำกีต้าร์ปีละ 20 คนที่ Siguenza นำเอาความรู้ที่เขามีอยู่ทั้งหมด มาสอนให้กับคนอื่นๆ อย่างไม่ปิดบัง [แต่ใครจะได้เท่าไรนั้นก็ขึ้นกับความสามารถของแต่ละคนครับ] ผมคิดว่าการที่ Jose Romanillos เลือกช่างกีต้าร์กระจายไปทั่วโลก ก็เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ให้กระจายไปทุกทาง ซึ่งการทำแบบนี้ ช่างทำกีต้าร์ในสเปน หลายๆ คน ไม่ชอบใจมากๆ [แต่ผมว่าเขาไม่มีสิทธิ์ เพราะสิ่งที่ Romanillos เรียนรู้นั้นไม่ได้มาจากช่างทำกีต้าร์สเปนโดยตรงเลย หนังสือเล่มแรกที่เขาใช้หัดทำก็ไม่ใช่คนสเปนเขียน กีต้าร์แบบแรกที่เป็นแรงจูงใจของ Romanillos คือ Hauser Sr ก่อนจะไล่ไปย้อนกลับไปถึง Torres ซึ่งไม่ใช่แบบที่ช่างทำกีต้าร์ในสเปนและทั่วโลก ในปัจจุบันส่วนมากใช้ด้วยซ้ำไป ถ้ามีโอกาสจะมาขยายความอีกครั้ง] จากการที่ผมได้มีโอกาสเป็นเจ้าของกีต้าร์ที่ช่างนิด วิรุฬห์ ไปเรียนกับ Romanillos ปี 2005 นั้น ผมคิดว่ากีต้าร์ที่ทำในคลาสออกมานั้น เรียกได้ว่าเป็น กีต้าร์ในระดับ "Workshop" ของ Romanillos ก็ได้ เพราะ Romanillos ทั้ง Jose และ Liam เป็นผู้มีส่วนในการปรับไม้หน้าหรือ Soundboard (เรียกง่ายๆ ว่า การจูนท๊อป) ตั้งแต่เริ่มจนจบ อีกทั้ง ครูผู้ช่วยนั้นก็เป็นช่างอาวุโส ที่เรียกได้ว่าระดับโลกเหมือนกันคือ Gerhard J.Oldiges [ถ้าใครไม่รู้จักก็ลอง 'Google' หรือ 'Yahoo' ครับ] ผมเพิ่งได้มีโอกาสนำกีต้าร์ที่ทำเสร็จปลายปี 2005 ที่ฝากไว้กับเพื่อนรุ่นพี่ กลับบ้านในตอนกลับจาก festival 2007 นี่เอง และไม่เคยคาดหวังกับกีต้าร์ตัวนี้มากนัก แต่พอเอากลับมาและใส่สาย แทนสาย 2 เส้นที่ขาดไป ในคืนแรกที่นำกลับมาถึงบ้าน ผมรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นกีต้าร์ที่ดีตัวหนึ่ง หลังจากนั้น อีกสองสามวันจึงได้มีโอกาสเปลี่ยนสายทั้งหมด [ผมจะใช้ D'Addario EJ46 หรือ EJ45 ในการลองกีต้าร์ครั้งแรก เพราะเป็นสายกีต้าร์ที่ "Neutral" คือไม่ใส่อะไรลงไปเลย เป็นเสียงของกีต้าร์ที่แท้จริง เพื่อให้รู้จุดอ่อนจุดแข็งของกีต้าร์ตัวนั้นๆ ทั้ง Jose และ Liam Romanillios ก็ใช้ สายดังกล่าว ทั้งในการทำกีต้าร์เองและการสอนในชั้นเรียน ดูเหมือนว่าเท่าที่ทราบช่างไทยบางคนก็เริ่มเข้าใจในเรื่องนี้] เล่นไปเรื่อยๆ วันละนิดวันละหน่อยจนกระทั่งสายค่อนข้างจะอยู่ตัว ก็ ค่อนข้างแน่ใจมากขึ้นว่ามันเป็นกีต้าร์ที่ดี และอาจดีมาก เมื่อไม้หน้าเริ่มเปิดแล้ว ซึ่งคงอีกหลายปีครับ ถึงวันอาทิตย์จึงนำเอาไปให้ลูกศิษย์ที่พอเล่นกีต้าร์เป็น ลองเล่นให้ฟังในห้องเรียน มันดีกว่าที่ผมคิดไว้อีก ผมจึงรายงานผลให้ ช่างกบ (ช่างไทยคนแรกของไทยที่ไปเรียนกับ Romanillos ทั้งปี 2004 และ 2005) และช่างนิดทราบ และเพื่อที่จะบอกว่าเป็น Class ที่น่าไปเรียนมาก คุ้มค่ามาก อยากจะบอกกับคนที่อยากมีกีต้าร์ดีๆ แต่ไม่อยากจ่ายตังค์แพงเกินไปให้สนับสนุนทุนช่างไทย ไปเรียนกับ Romanillos ครับ เพราะมีแต่ Win-Win ครับ แต่ช่างกบก็บอกว่า Class ปี 2008 และปีต่อๆ ไป จะไม่มี จนกว่าทาง Romanillos จะหาสถานที่เหมาะสมได้เพราะที่เดิมนั้นได้ถูกขายและดัดแปลงเป็นโรงแรมไปแล้ว เท่าที่ทราบได้มีช่างไทยสนใจจะไปถึง 3 คน [แต่ waiting list นี่ประมาณ 8 ปี คือ 160 คน รับได้แค่ 20 คนต่อปี] เป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก ของช่างทำกีต้าร์รุ่นใหม่ ไม่ใช่เฉพาะไทยอย่างเดียว ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และได้บอกว่า หากช่างไทยคนไหน สามารถทำกีต้าร์ได้ดีเท่ากับกีต้าร์ที่ทำใน Class นี้ ได้อย่างสม่ำเสมอทุกๆ ตัว ก็ถือได้ว่าเป็นช่างระดับ 1st Class Luthier แล้วครับ สามารถนำกีต้าร์ไปขายได้ทั่วโลก (แต่ต้องพิจารณาเรื่องความทนทานด้วย เพราะใน Class ของ Romanillos, Jose จะให้ใช้ Synthetic Glue กับช่างที่มาจากประเทศที่มีความชื้นสูงๆ อย่างเช่นญี่ปุ่นหรือไทย ไม่ใช่ Hide Glue เหมือนช่างที่มาจากที่อื่นๆ นี่เป็นสิ่งที่ช่างไทยน่าจะปฎิบัติตามอย่างยิ่ง)

อนึ่งจากการที่ได้สอบถามทาง เพื่อนที่เป็นเจ้าของกีต้าร์ที่ทำโดยช่างกบใน Romanillos Class (เป็น Spruce/Cypress ซึ่ง Cypress เป็นไม้ที่ Jose L.Romanillos ชอบมากที่สุด และน่าจะเสียงดีที่สุด แต่นักกีต้าร์ทั่วไปส่วนมากคิดว่ามันเป็นไม้สำหรับกีต้าร์แฟมมิงโก้ ซึ่งก็คงเปลี่ยนความคิดได้ยาก) และผู้รู้อีกท่านหนึ่งที่มีโอกาสเล่นกีต้าร์ตัวนี้และ Jose L.Romanillos ของจริงมาแล้ว ผู้รู้ท่านนี้ผมให้ความยกย่องในความรู้เรื่องกีต้าร์ที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกีต้าร์ยุคเก่าหรือโรแมนติคกีต้าร์ และมีกีต้าร์ในระดับ "World Class Collection" ชนิดมีเงินก็หาซื้อได้ยากยิ่ง ทั้งสองท่านให้ความเห็นว่ากีต้าร์ตัวนี้มีลักษณะเสียงคล้ายหรือเหมือนมากกับ Romanillos ตัวจริง ซึ่งผมไม่แปลกใจเลยว่าถ้าหาก Jose L.Romanillos ทำกีต้าร์ในลักษณะ Workshop คงรวยมากๆ ไปแล้วครับ


--------------------------------------------------------------------------------
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
บทความทั้งหมด  ครูหยิบ  เป็น ผู้เขียนครับ
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

somjean

  • member
  • ***
  • กระทู้: 447
  • Mr. Taxi Taxi Taxi ทุชี่ ๆ ๆ ๆ ๆ
ขอบคุณครับ อ่านจนตาลายเลยครับ ^^
ได้ความรู้หลากหลายแง่มุมดีครับ

สรุปคือ
กีต้าร์ที่จัดเป็นคอนเสิร์ต ต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน
คือเรื่อง Clarity ซึ่งก็คือเรื่องเดียวกับ Separation
Balance คุณไม่สามารถเล่นกีต้าร์ที่ขาดความ Balance ได้
Projection อันต้องขอยืนยันว่า มันคนละเรื่องกับ Loudness
Sustain อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก ยิ่งนานยิ่งดี
Timbre หรือ Tone นี่เป็นสิ่งที่กีต้าร์แต่ละตัวจะต่างกัน
Intonation หา กีต้าร์ที่มี Perfect Intonation ได้ยากมากๆ

เดี๋ยวผมต้องไปสังเกตุดูกีตาร์ของผมบ้าง ว่ามีซักข้อ สองข้อที่ดีพอเข้าข่ายนี้มั้ยครับ
ตอนนี้อยากได้ super guitar บ้างจังเลย.... ;D

อ้อ... ชอบตรงที่มี comment ที่ว่า ไม้ brazillian RW (ยุคนี้) ไม่ได้ดีไปกว่า Indian RW ... อืม... มันต้องอย่างนี้สิ
จะได้ตัดช่องว่างเรื่องราคา over ไปได้หน่อย... เอาคุณภาพเป็นหลักดีกว่าจริงมั้ยครับ

nco4433

  • member
  • ***
  • กระทู้: 592
โอ้...สุดยอดเลยครับ...คนทั่วไปคงเขียนไม่ได้ขนาดนี้หรอกครับ...ผมว่า hendrix ก็คนนึงละ..เขาว่ามาจากนอกโลก..ผมว่าท่านที่เขียนบทความเรื่องนี้ผมว่าก็น่ายกย่องไม่แพ้กันครับ..แต่เป็นในแง่มุมของนักวิจารณ์ และนักวิเคราะห์อย่างดีเยี่ยมเลยครับ..นับถือครับ.. ;D

Kwang @ Uttaradit

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,470
  • Kwang @ Uttaradit


ได้สว่างไสว ขึ้นอีกเยอะ ครับ น้า redtopup
Finger Picking Style

thezerot

  • member
  • ***
  • กระทู้: 234
  • เพศ: ชาย
อาจจนลายตาเลยคับ แต่ความรู้เพียบ
++กระบี่อยู่ที่ใจ++

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
ขอบคุณครับ อ่านจนตาลายเลยครับ ^^
ได้ความรู้หลากหลายแง่มุมดีครับ

สรุปคือ
กีต้าร์ที่จัดเป็นคอนเสิร์ต ต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน
คือเรื่อง Clarity ซึ่งก็คือเรื่องเดียวกับ Separation
Balance คุณไม่สามารถเล่นกีต้าร์ที่ขาดความ Balance ได้
Projection อันต้องขอยืนยันว่า มันคนละเรื่องกับ Loudness
Sustain อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก ยิ่งนานยิ่งดี
Timbre หรือ Tone นี่เป็นสิ่งที่กีต้าร์แต่ละตัวจะต่างกัน
Intonation หา กีต้าร์ที่มี Perfect Intonation ได้ยากมากๆ

เดี๋ยวผมต้องไปสังเกตุดูกีตาร์ของผมบ้าง ว่ามีซักข้อ สองข้อที่ดีพอเข้าข่ายนี้มั้ยครับ
ตอนนี้อยากได้ super guitar บ้างจังเลย.... ;D

อ้อ... ชอบตรงที่มี comment ที่ว่า ไม้ brazillian RW (ยุคนี้) ไม่ได้ดีไปกว่า Indian RW ... อืม... มันต้องอย่างนี้สิ
จะได้ตัดช่องว่างเรื่องราคา over ไปได้หน่อย... เอาคุณภาพเป็นหลักดีกว่าจริงมั้ยครับ




อ้อ... ชอบตรงที่มี comment ที่ว่า ไม้ brazillian RW (ยุคนี้) ไม่ได้ดีไปกว่า Indian RW ... อืม... มันต้องอย่างนี้สิ
จะได้ตัดช่องว่างเรื่องราคา over ไปได้หน่อย... เอาคุณภาพเป็นหลักดีกว่าจริงมั้ยครับ
ตรงนี้เป็นอีกมุมหนึ่งครับที่ผมไม่เชื่อ  ล้านเปอร์เซนต์  ครับ
เพราะ ผมลองมากับตัวเองแล้ว  ทุกอย่างเหมือนกันหมด  ต่างกันที่ไม้หลัง  โรสวูดไม่มีทางสู้ บราซิเลี่ยนได้ในทุก หัว ข้อ  ของเสียง
ผมว่า ธุรกิจกีต้าร์แฮนเมดนั้น  มันเป็นอะไรที่  เป็นระดับชาติ ของ ประเทศ ต้นกำเนิดต่างๆ  เป็นหน้าตา ของประเทศ ที่ขึ้นชื่อ ใน เรื่องกีต้าร์คลาสสิค
ในเมื่อ ประเทศเค้าห้ามตัดหรือบางประเทศห้ามมีไว้ในครอบครอง    แน่นอนครับ ถ้าเขาบอกว่า โรสวู๊ดไม่มีทางสู้ บราซิเลี่ยนได้  
เขาก็ขายกีต้าร์ราคาแพงๆไม่ได้  ขาดดุลย์การค้า  รัฐมนโทถูกด่า
ดังนั้นจึงต้องหาวิธีหาทางออกโดยการ บิดเบือน ความจริง  
สุดท้ายก็แต่งเป็นตำราออกมา เขียนเองเออเอง  
บอกว่า บราซิเลี่ยน ต้อง ตัดก่อน ปี 1950  ถึงจะได้ไม้แก่  เสียงดี  เอาอะไรมาตัดสิน
กับการทำกีต้าร์ขึ้นมาตัวเดียวแล้วตัดสินเหรอครับ  ผมว่ามันไม่ใช่  
ปุจจุบัณ ช๊อพของ รามิเรส  ในสเปน  ซึ่งตอนนี้ สงสัยเป็น รุ่น คนงานทำแล้ว
โจเซ่รามิเรส ถือ ว่าเป็น กีต้าร์ ยี่ห้อ เก่าแก่ของสเปน  จากปู่ สู่พ่อ สู่ ลูก สู่ หลาน สู่เหลน
รามิเรส เป็นต้นกำเนิด ในกีต้าร์ ยี่ห้อต่างๆในสเปนออกไป
คนงานที่อยู่ ในรามิเรส รุ่น แรกๆ ทั้น รามิเรสที่ 2 ที่ 3 ก็ ออกไปสร้างกีต้าร์ของตัวเอง เป็นยี่ห้อใหม่
คนงานที่ทำอยู่ในยี่ห้อใหม่ ก็ ออกไป ตั้ง ทำกีต้าร์ ยี่ห้อใหม่ขึ้นมาอีก
ปัจจุบัณ  รามิเรส นั้น เป็น ระบบ กึ่ง อุยสาหกรรมแล้ว  
กีต้าร์รุ่นใหญ่สุดของเขาน่าจะเกือบล้านแล้วมั้งตอนนี้   ใช้ไม้ โรสวู๊ด แน่นอนครับ เพราะ ห้ามใช้ บราซิเลี่ยน
ผมว่า มีเหตุหลายอย่าง ที่ต้อง เขียน บทความขึ้นมาเพื่อ  ใช้ในการอ้างอิง  
ซึ่งบทความ คนเป็น ผู้เขียนขึ้น ใครเขียน ก็  เข้าข้างตัวเองทั้งนั้นครับ  
มั่วล้านเปอร์เซนต์เลย บอก โรสวู๊ดธรรมดา ให้ คุณ ภาพไม่แตกต่างจาก บราซิเลี่ยน  
อีกหน่อยสงสัยบอกเสียงดีกว่าอีก    
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

Montra

  • member
  • ***
  • กระทู้: 537
  • เพศ: ชาย
เป็นบทความที่ดีมากครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ที่นำมาแบ่งปันครับ

แต่ถ้ามีแค่กีตาร์ดีๆ จำนวนหยิบมือมดเท่านี้  คงมีคนเล่นกีตาร์เป็นสักสอง สามร้อยคน ทั่วโลกทีเดียวเชียว

**กีตาร์มันเถียงไม่ได้ เธอไปบ่นมันทำไม**

em4ik

  • member
  • ***
  • กระทู้: 97
  • เพศ: ชาย
เขามาลงชื่อบอกว่าตาลายครับ

TKCN

  • member
  • ***
  • กระทู้: 673
ขอบคุณครับ อ่านจนตาลายเลยครับ ^^
ได้ความรู้หลากหลายแง่มุมดีครับ

สรุปคือ
กีต้าร์ที่จัดเป็นคอนเสิร์ต ต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน
คือเรื่อง Clarity ซึ่งก็คือเรื่องเดียวกับ Separation
Balance คุณไม่สามารถเล่นกีต้าร์ที่ขาดความ Balance ได้
Projection อันต้องขอยืนยันว่า มันคนละเรื่องกับ Loudness
Sustain อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก ยิ่งนานยิ่งดี
Timbre หรือ Tone นี่เป็นสิ่งที่กีต้าร์แต่ละตัวจะต่างกัน
Intonation หา กีต้าร์ที่มี Perfect Intonation ได้ยากมากๆ

เดี๋ยวผมต้องไปสังเกตุดูกีตาร์ของผมบ้าง ว่ามีซักข้อ สองข้อที่ดีพอเข้าข่ายนี้มั้ยครับ
ตอนนี้อยากได้ super guitar บ้างจังเลย.... ;D

อ้อ... ชอบตรงที่มี comment ที่ว่า ไม้ brazillian RW (ยุคนี้) ไม่ได้ดีไปกว่า Indian RW ... อืม... มันต้องอย่างนี้สิ
จะได้ตัดช่องว่างเรื่องราคา over ไปได้หน่อย... เอาคุณภาพเป็นหลักดีกว่าจริงมั้ยครับ




อ้อ... ชอบตรงที่มี comment ที่ว่า ไม้ brazillian RW (ยุคนี้) ไม่ได้ดีไปกว่า Indian RW ... อืม... มันต้องอย่างนี้สิ
จะได้ตัดช่องว่างเรื่องราคา over ไปได้หน่อย... เอาคุณภาพเป็นหลักดีกว่าจริงมั้ยครับ
ตรงนี้เป็นอีกมุมหนึ่งครับที่ผมไม่เชื่อ  ล้านเปอร์เซนต์  ครับ
เพราะ ผมลองมากับตัวเองแล้ว  ทุกอย่างเหมือนกันหมด  ต่างกันที่ไม้หลัง  โรสวูดไม่มีทางสู้ บราซิเลี่ยนได้ในทุก หัว ข้อ  ของเสียง
ผมว่า ธุรกิจกีต้าร์แฮนเมดนั้น  มันเป็นอะไรที่  เป็นระดับชาติ ของ ประเทศ ต้นกำเนิดต่างๆ  เป็นหน้าตา ของประเทศ ที่ขึ้นชื่อ ใน เรื่องกีต้าร์คลาสสิค
ในเมื่อ ประเทศเค้าห้ามตัดหรือบางประเทศห้ามมีไว้ในครอบครอง    แน่นอนครับ ถ้าเขาบอกว่า โรสวู๊ดไม่มีทางสู้ บราซิเลี่ยนได้ 
เขาก็ขายกีต้าร์ราคาแพงๆไม่ได้  ขาดดุลย์การค้า  รัฐมนโทถูกด่า
ดังนั้นจึงต้องหาวิธีหาทางออกโดยการ บิดเบือน ความจริง 
สุดท้ายก็แต่งเป็นตำราออกมา เขียนเองเออเอง 
บอกว่า บราซิเลี่ยน ต้อง ตัดก่อน ปี 1950  ถึงจะได้ไม้แก่  เสียงดี  เอาอะไรมาตัดสิน
กับการทำกีต้าร์ขึ้นมาตัวเดียวแล้วตัดสินเหรอครับ  ผมว่ามันไม่ใช่ 
ปุจจุบัณ ช๊อพของ รามิเรส  ในสเปน  ซึ่งตอนนี้ สงสัยเป็น รุ่น คนงานทำแล้ว
โจเซ่รามิเรส ถือ ว่าเป็น กีต้าร์ ยี่ห้อ เก่าแก่ของสเปน  จากปู่ สู่พ่อ สู่ ลูก สู่ หลาน สู่เหลน
รามิเรส เป็นต้นกำเนิด ในกีต้าร์ ยี่ห้อต่างๆในสเปนออกไป
คนงานที่อยู่ ในรามิเรส รุ่น แรกๆ ทั้น รามิเรสที่ 2 ที่ 3 ก็ ออกไปสร้างกีต้าร์ของตัวเอง เป็นยี่ห้อใหม่
คนงานที่ทำอยู่ในยี่ห้อใหม่ ก็ ออกไป ตั้ง ทำกีต้าร์ ยี่ห้อใหม่ขึ้นมาอีก
ปัจจุบัณ  รามิเรส นั้น เป็น ระบบ กึ่ง อุยสาหกรรมแล้ว 
กีต้าร์รุ่นใหญ่สุดของเขาน่าจะเกือบล้านแล้วมั้งตอนนี้   ใช้ไม้ โรสวู๊ด แน่นอนครับ เพราะ ห้ามใช้ บราซิเลี่ยน
ผมว่า มีเหตุหลายอย่าง ที่ต้อง เขียน บทความขึ้นมาเพื่อ  ใช้ในการอ้างอิง 
ซึ่งบทความ คนเป็น ผู้เขียนขึ้น ใครเขียน ก็  เข้าข้างตัวเองทั้งนั้นครับ 
มั่วล้านเปอร์เซนต์เลย บอก โรสวู๊ดธรรมดา ให้ คุณ ภาพไม่แตกต่างจาก บราซิเลี่ยน 
อีกหน่อยสงสัยบอกเสียงดีกว่าอีก   
Indian เสียงไม่หนีจาก Brazilian จริงๆครับ
แต่ Brazilian จะให้เสียงที่คมและเร็วกว่าครับ
ที่เหลือแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ
Indian เกรดดีๆบางตัวยังดีกว่า Brazilian ธรรมดาๆก็มีครับ
เช่นพวก Roemmich Redgate Young seo
กีตาร์พวกนี้จะใช้ Indian ที่ทีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีครับ
ให้เสียงที่หนากว่า Brazilian ด้วย
แต่ถ้าความคมชัดของเสียง Brazilian จะได้เปรียบครับ

JamesKaew

  • member
  • ***
  • กระทู้: 10
ได้ความรู้อย่างมาก ขอบคุณน้า redtopup ครับ

ballnito

  • member
  • ***
  • กระทู้: 179
ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ
พักหลังมานี้ ผมสนใจกีต้าร์คลาสสิคยี่ห้อ Samuel Carvahol
เพราะ Youtuber ในคลิปนี้เลยครับ

Error 404 (Not Found)!!1


เพราะค้นหาใน Google ดู ก็พบว่าเป็นช่างทำกีต้าร์ในประเทศบราซิล
ถ้าอยากได้กีต้าร์ที่เฉพาะขนาดนี้ ... เราสามารถสั่งซื้อได้อย่างไรบ้างครับ
(นอกจากดูมือสองใน ebay หรือขึ้นเครื่องไปหิ้วมาเอง)

เพื่อไม่ให้ผิดวัตถุประสงค์ของกระทู้
กีต้าร์น้ำเสียง หรือ สไตล์ประมาณนี้
พอจะมีรุ่นไหนที่ใกล้เคียงมั้ยครับ

(เท่าที่ดู spec เบื้องต้น น่าจะ Doubled-Top Ceder)

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

shine_yy

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1
ขอบคุณ สำหรับ ความรู้มากครับ อ่านตาลายเลย
แต่อยากรู้ว่า สมัยนี้ ช่างรุ่นใหม่ๆที่น่าจับตามอง ระดับโลกมีใครมั่งครับ
หาก น้า redtopup มาอัพเดทให้ฟังเป็นความรู้ จะดีมากเลยครับ