Passive pickup นั้นมีความแรง (amplitude) ของสัญญาณน้อยมากครับ เมื่อเอามาต่อกับสายแจ็คความต้านทานของสายก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวงจรเหมือนกับเราเอา resistor ไปพ่วงทำให้สัญญาณลดความแรงลงอีกแต่ทางเสียงแหลมจะตกมากกว่าเสียงทุ้มเสมอ ถ้าสายยาวมากอาจเหลือแค่เสียงทุ้มที่ออกแอมป์ครับ
กฎเหล็กของการใช้ passive pickup คือสายแจ็คไม่ควรยาวเกิน 9 ฟุตถ้าจะไม่ให้เสียงแหลมดรอปมากเกินไป ดังนั้นก็ควรไปซื้อกล่องปรีแอมป์มาพ่วงเพื่อขยายสัญญาณแต่สายจากกีตาร์ไปปรีแอมป์ยิ่งสั้นก็ยิ่งใด้ผลนะครับ ปรีบางรุ่นนั้นเขาออกแบบมาให้เหน็บเอวเวลาใช้งานด้วยซ้ำ
สัญญาณที่ถูกขยายโดยปรีแอมป์นั้นก็ยังดรอปแต่คราวนี้ความยาวสายสามารถยาวใด้ถึง 21 ฟุต ถ้าต้องใช้ความยาวสายมากกว่านั้นก็ต้องใช้ DI box มาแปลงสัญญาณ unbalanced ให้เป็น balanced signal เมื่อแปลงแล้วสายจะยาวเท่าไหร่ก็ไม่มีผลครับ
External preamp ราคาเริ่มต้นที่สองพันกว่าบาท (Fishman, LR Baggs, K&K) Preamp+ DI box ราคาเริ่มต้นที่ห้าพันกว่าบาทครับ