น้ากฤษณ์ครับ อยากฟังเรื่องห้องAcoustic ฟังเพลงมากเลยครับ
มีคนมาถามบ่อยมาก ผมเองก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องระดับเทคนิคเท่าไหร่ แนะนำเค้าได้แค่หลักการกว้างๆ ซึ่งก็ไม่ใช่ในระดับที่ฮาร์ดคอร์เท่าไหร่
ขอบคุณน้ากฤษณ์ล่วงหน้าเลยครับ ปูเสื่อรอรับความรู้เลยเชียว
เคยมีคนบอกว่า ทำอาคารใต้ดิน ราคาแพงมาก แต่ผมไม่นึกว่ามันจะโหด 3-4 เท่า อย่างที่น้ากฤษณ์ว่า(สยอง)
แล้วมันจะคุ้มมั้ยล่ะครับ เคยคุยกับวิศวกร เค้าบอกว่า"งานดิน"นี่แหละโหดสุดๆ ไม่รู้ว่ามันจะเอายังไง
ผมคนนึงล่ะครับ ถ้าไม่ยากเข็ญจริงๆ ไม่ค่อยอยากออกแบบลงดินเท่าไหร่ล่ะครับน้ากฤษณ์
เรืองงานโครงสร้างใต้ดินนี่แพงเท่าไหร่ก็คุ้มครับ สมมุติว่าตัวอาคารสูงติด set-back 2:1 จนสร้างเต็ม plot ratio ไม่ใด้ก็มีทางเลือกทางเดียวคือต้องมุดลงใต้ดิน ส่วนเรื่องโหดนี่ก็จริงเรื่องขนดินออกเพราะรถบรรทุกติดเวลาห้ามวิ่งในเมือง อีกปัจจัยที่ทำให้ราคาสูงก็คือเราต้องใช้วิธี top-down construction เพื่อประหยัดเวลาครับ
ปัญหาใหญ่สุดของเรื่อง acoustic ในอาคารคือเรื่อง standing waves ครับ สมัยก่อนนั้นเวลาออกแบบอาคารทั้งสถาปนิกและวิศวกรก็ไม่ใด้ให้ความสำคัญเรื่องนี้เลยมีเรื่องมาเล่าให้ฟังแต่ผมขอไม่เอ่ยชื่ออาคารเพื่อให้ความเคารพกับผู้ออกแบบครับ
อาคารหลังแรกนี่สร้างเมื่อห้าสิบปีที่แล้วเพื่อเป็นอาคารอเนกประสงค์ ตอนสร้างเสร็จใหม่ๆพวกเราก็เห่อกันมากเพราะเป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัย พอจัดงานลีลาศกันก็เจอกับปัญหาเสียงสะท้อนจนแทบฟังดนตรีไม่รู้เรื่องเลยครับ
ผมไม่ใด้ติดตามว่าเขาแก้ปัญหานี้ยังไงในภายหลังแต่อาคารนี้เพิ่งใด้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นไปในปีนี้ครับ
อีกสิบปีต่อมาตอนเริ่มทำงานที่เมืองนอกก็ใด้รับงานไปตรวจสอบและดัดแปลงฐานรากของกลุ่มไซโลอายุร้อยกว่าปีเพื่อทำเป็นโรงแรมขนาดกลาง งานนี้เลยใด้เห็นจะๆว่าฝรั่งเขาแก้ไขปัญหาด้าน acoustic กันอย่างไรครับ
ใครที่เคยก้มหน้าลงไปรัองเพลงในโอ่งน้ำตอนเด็กคงรู้ว่าผนังที่เป็นทรงกลมนั้นมันสะท้อนเสียงยาวมากเพราะมันขนานกันทุกจุดของห้อง ถ้าดูจากรูปแปลนข้างบนสถาปนิกเขาแก้ปัญหานี้โดยการออกแบบผนังภายในที่ไม่มีมุมขนานกันเลยแม้แต่จุดเดียวครับ
อาคารหลังแรกในเมืองไทยที่ออกแบบโดยให้ความสำคัญในเรื่อง acoustic น่าจะเป็นอาคารศูนย์วัฒนธรรมที่สถาปนิกญี่ปุ่นมาช่วยออกแบบ จะเห็นใด้ว่าเขาพยายามลดจุดขนานและจุดตั้งฉากให้มีน้อยที่สุด