แล้วไม้มันจะผิดธรรมชาติรึป่าวครับ หมายถึงอายุของมันในระยะยาวอ่ะครับ
ผิดธรรมชาติแน่นอนครับเพราะเป็นการเร่งอายุของไม้ 50 ปีโดยใช้เวลาแค่ 5 วัน ที่เขากลัวกันคือเรื่องไม้เปราะเมื่อใช้งานไปอีกนานๆแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ใด้
การทำ torrefaction นั้นเกิดใน Finland ปี 1990 โดยจุดประสงค์หลักคือการเพิ่ม energy density ให้เศษไม้และขี่เลื่อยเพื่อนำไปใช้ร่วมกับถ่านหินในเตาเผาเพราะเขามีเศษไม้เหลือมากมายจากอุตสาหกรรมป่าไม้
Torrefaction คือการอบไม้ที่อุณภูมิสูงประมาณ 350-400 องศาในสภาพไร้ออกซีเจนเพื่อไม่ให้ไม้ไหม้ เศษไม้ที่ผ่านขบวนการนี้จะให้พลังงานใด้ไกล้เคียงกับถ่านหินและขนส่งใด้สะดวกขึ้น
รูปแรกคือภูเขาขี้เลื่อยที่รอเข้าโรงอบครับ
เศษไม้ที่อบแล้วจะมีสีดำปิ๊ดปี๋คงเอาไปทำกีตาร์ไม่ใด้แน่
โรงไฟฟ้าขนาด 300 MW ที่ใช้ torrified wood chips แทนถ่านหิน 100%
FIRST GENERATION TORRIFIED GUITARS 1997......Landola Guitars ของ Finland เป็นเจ้าแรกที่ทำ torrified tops และเรียก process นี้ว่า ThermoTonewood
จากคำอธิบายข้างบนเขาใช้ความร้อนเพียง 170-230 องศาเพื่อไม่ให้ไม้ดำแต่ก็ไม่สูงพอที่จะทำให้ resin แข็งตัวใด้ ดังนั้น process นี้จึงไม่ใด้รับความนิยมเพราะเสียงไม่ใด้เปลี่ยนไปมากมาย
SECOND GENERATION TORREFIED GUITARS: Yamaha Acoustic Resonance Enhancement (ARE) 2004
ระบบนี้ใช้เวลาอบไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง (ดูรูปข้างบน) และใช้อุณภูมิต่ำกว่าระบบแรกแต่ใช้ไอน้ำความดันสูงถึง 16 บรรยากาศ ( 1 megapascal = 10 bars) เพื่อกำจัดน้ำมัน (sap, sugar syrup) และยางไม้ (resin) บางส่วน Yamaha เพิ่งมาเรียกระบบนี้ว่า torrefaction เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ในวีดีเก่าก็ไม่พูดถึงครับ
THIRD GENERATION TORREFIED GUITAR: Dana Bourgeois 2012
ระบบล่าสุดนี้เป็นระบบเดียวที่กำจัดยางไม้ใด้เพราะใช้ความร้อนสูงเกิน 300 องศาซึ่งมากพอที่จะทำให้ resin คายน้ำออกมาและแข็งตัว ในขั้นตอนแรกเขาจะอบไม้ที่ความร้อน 250 องศาเป็นเวลา 20 ชั่วโมงและทิ้งไม้ไว้ในเตาประมาณ 3 วันเพื่อให้น้ำระเหยออกจนหมด ขั้นตอนที่สองคือการอบด้วยไอน้ำที่ความร้อนสูงถึง 400 องศาซึ่งไม่ทำให้ไม้เปลี่ยนสีมากนักและไม่เปราะจนใช้งานไม่ใด้
รายละเอียดหาอ่านใด้ในเว็บของ Bourgeois ครับ