ไม้หน้าของกีตาร์โปร่งส่วนใหญ่มักใช้ spruce ที่เป็นไม้เนื้ออ่อนครับ Spruce นั้นไม่แข็งแรงและทนแดดทนฝนพอที่จะใช้สร้างบ้านดังนั้นเขาจะนำไปใช้ในการทำเยื่อกระดาษ(pulp wood) เป็นส่วนใหญ่ เท่าที่ทราบไม้ที่ใช้ทำเยื่อกระดาษจะมีขนาด 2.5" ขึ้นไป ไม้ที่ใช้เป็นแผ่นกระดานหรือเสา (saw/veneer log) ใช้ขนาด 8" ขึ้นไปและไม้ที่ใช้ทำกีตาร์ต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 20" ขึ้นไป
Spruce เป็นไม้ที่หาง่ายและปลูกทดแทนใด้มากกว่าปริมาณที่โดนตัด (Removal to Growth Ratio) จึงมีราคาถูกมากครับ
เวลาเขาตัดไม้ spruce จะใด้ขนาดเกือบทุกขนาดจากกิ่งและลำต้นแต่มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่ลำต้นใหญ่พอใช้ทำกีตาร์โปร่งทำให้ไม้ลำต้นใหญ่มีราคาแพงกว่าไม้ลำตัวเล็กหลายเท่า
ดังนั้นเขาถึงนิยมทำ laminated top โดยการเอาไม้แผ่นใหญ่ลายสวยที่ราคาแพงปะหน้าหลังแล้วเอาไม้ชิ้นเล็กต่อกันหลายๆชิ้นทำเป็นไส้กลาง ความจริงเขาจะไม่แปะด้านหลังก็ใด้แต่มันดูน่าเกลียดครับ
การทำ laminate บางครั้งเขาก็ทำเพื่อเพิ่มความเสถียร (stablility) เวลาทำกีตาร์ archtop เพราะไม้ solid ไม่สามารถดัดขึ้นรูปใด้ การทำลามิเนตแบบนี้มักจะใช้ไม้สี่หรือห้าชิ้นโดยวางชิ้นในขวางเกรนกันเพื่อให้แข็งแรงพอที่จะไม่ดีดกลับหลังอัดขึ้นรูป การทำวิธีนี้ถูกกว่าการเอาไม้ชิ้นเดียวหนาประมาณสองนิ้วมา carve ให้เป็น archtop ครับ
สำหรับกีตาร์คลาสสิคสมัยนี้มีหลายเจ้าที่นิยมใช้ double top ซุึ่งความจริงแล้วเป็นการเอาไม้บางๆสองแผ่นมาประกบกันโดยมีใย nomex เป็นไส้กลาง เขาทำแบบนี้เพื่อลดมวลของไม้หน้าซึ่งมีผลให้เสียงดังขึ้นครับ