หัวข้อ: สอบถามเรื่อง Home Studioคร้าบบบ

[Kasop]

 คือผมมี คอมตัวหนึ่ง PC หนะครับ ว่ากำลังจะซื้อ Mic condensor ของ samson c03u

มาใช้สำหรับ ร้องเพลง แค่นั้นอ่าคับคือไม่รู้ว่ามันจะเพียงพอมั้ย?

ผมลองอ่านบทความหลายบทความละ

เหนว่าต้องมี Audio interface ปรีแอม บลาๆ = =" ซึ่งผมมีงบมะถึงอ่าครับ

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

ถ้าจะพูดกันถึง "โฮมสตูดิโอ" องค์ประกอบอย่างน้อยสุดที่ต้องมี ได้แก่ ..

คอมพิวเตอร์ / MIDI KEYBOARDS / AUDIO INTERFACE / ลำโพงมอนิเตอร์ / ไมโครโฟน

ดังนั้น ถ้ามีแค่คอนเดนเซอร์ไมค์ usb ตัวเดียว ก็คงต้องตอบว่า 'ไม่เพียงพอ' ครับ

[Kasop]

อ่อ คร้าบบบ ขอบคุน bluemoon มากค้าบบบ

แหะๆ ผมใช้คำมั่วไปนิดนึงอ่า = ="

คือผมกะจะมาเอา ร้องเพลง เล่นๆที่บ้านอ่าครับ

ไม่รู้ว่ามันจะพอรึเปล่า

[Kasop]

ร้อง + อัดลง youtube อ่าคับผม!!

[smoinync]

เห็นเค้าใช้  usb mic ของลูกชายนายแซม กันและ เห็นเขาว่ากันว่าดีใช้ได้เลยนะ ไม่ต้องซื้อ  interface  ด้วย
แต่เห็นเขาว่ากันว่าถ้าจะอัดเป็นเรื่องราว เป้้นวง อัดกลอง โฉ่งฉ่าง กีต้าร์แตร่งๆ เนี่ย มีไมค์ตัวเดียวไม่น่าพอน่ะครับ
อัดกลองทีใช้  mic   8 ตัว  อัดโปร่งงแบบมาตรฐาน จ่อ mic 2 ตัว ผ่าน  mic preตัวนึงถูกสุด  3-4000 แต่แบบมาตรฐานให้  x 5 ไปเป็นอย่างน้อย

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

อัดร้อง อัดกีตาร์ ลงยูตูบที่บ้าน แค่นี้ก็พอแล้วครับ ^^

[Kasop]

ขอบคุณมากค้าบบบ !! สำหรับทุกคำแนะนำ

พอมีไมค์ตัวอื่นแนะนำ นอกจาก Samson c03u มั้ยครับ

พอดีเพื่อนผมจะไป work อ่าคับ ผมเลยจะฝากซื้อ

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

ตามนี้เลยครับ 

http://www.acousticthai.net/webboard/index.php?topic=210.0

[smoinync]

เรื่องแนวเพลงก็มีส่วนในค่าใช้จ่ายนะครับ  อิ่งอัดเครื่องดนตรีสดเยอะแค่ไหน งบก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอะครับ
ถ้าทำดนตรีโดยprogram  plug-ins vsti ในคอม ก็จะลดค่าใช้จ่ายไปได้อีก

[Kasop]

โอ้ว ขอบคุนครับ

 ผมอัดกับ Backing track คับ

(พอดี ผมเล่นกีตาร์ + เครื่องดนตรีมะค่อยเปน แต่ชอบร้องเพลงหนะ)

[onoiaok]

ขอถามน้า bluemoon ต่อเลยและกันนะครับ
คือผมก็อยากทำ home studio เหมือนกัน แต่ว่าจะเอามาไว้อัดหลายๆอย่างเลยครับ ทั้ง กีต้าร์ เบส กลอง คีบอร์ด
แต่ผมยังไม่มีความรู้ด้านนี้เลยเลยขอถามแบบบ้านๆเลยนะครับว่าต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง

เอาตามที่ผมเข้าใจคือต้อง มี Audio Interface ไว้เพื่อ ผมเข้าใจว่ามีไว้ต่ออุปกรณต่างๆที่จะอัดเป็นไฟล์เสียง ลงในคอมพิวเตอร์
แต่จะอัดได้กี่ชิ้นพร้อมๆกันก็ดูที่ input ผมเข้าใจถูกรึป่าวครับ

ต่อมาคือ port midi ผมไม่เข้าใจหลักการการทำงานของมันเลยครับ มันมีทั้ง midi in และ midi out  แล้วผมก็เห็นเขาต่อทั้ง in และ out เข้าkeyboard หรือ midi controller
เขาทำเพื่ออัด sound คีบอร์ดหรอครับ คือพอดีผมมีคีบอร์ดอยู่แล้ว และอยากอัดเสียงคีบอร์ดโดยใช้เสียงที่มีอยู่ในตัวเครื่อง ไม่ใช้เสียงสังเคราะห์จากในคอม สามารถทำได้ใช้รึป่าวครับ

เอาไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า ผมเริ่มงงกับตัวเองและ อิอิ

[smoinync]

เนี่ย  home stu ที่รกที่สุดในประเทศไทย ผมว่าผมยังขาดอีกตั้งหลายอย่างเลย

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

ก่อนอื่นพี่ onoiaok ต้องลบล้างความเข้าใจเดิมทั้งหมดทิ้งไปเลยนะครับ แล้วค่อย ๆ เริ่มต้นทำความเข้าใจสิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ ..

- เสียงดนตรีที่เราได้ยินในเพลงต่าง ๆ ทุกวันนี้ เช่น เสียงกลอง เสียงเบส เสียงกีตาร์ เสียงไวโอลิน เสียงเครื่องเป่า ไม่ได้เกิดจากการอัดเข้าไปตรง ๆ โดยนักดนตรีมาเล่นสด ๆ อีกต่อไปแล้ว คือ ไม่ต้องเรียกมือกลอง มาอัดกลอง / ไม่ต้องเรียกมือเบสมาอัดเบส

- เสียงเครื่องดนตรีที่เราได้ยินเหล่านั้น เกิดจากการเล่นหรือเขียน  DATA ที่เรียกว่า MIDI ( Musical Instrument Digital Interface ) โดยการเล่นผ่านลิ่มของ MIDI KEYBOARDS ลงไปในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งมีหน้าที่บันทึกสัญญาณ MIDI เหล่านั้นไว้ แล้ว playback ผ่านคลังเสียง ที่เรียกว่า soundmodule สมัยนี้ soundmodule ที่เคยเป็นฮาร์ดแวร์ราคาสูงลิบลิ่วในห้องอัดในอดีตนั้น ถูกแพคใส่ไว้เป็นซอฟแวร์บนคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมดแล้วที่เรียกว่า virtual sampler และ vsti

- สัญญาณที่ถูกบันทึกลงไปในคอมพิวเตอร์นั้น มันเป็นเพียงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เป็น WAVEFORM ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราอัดลงไปได้ตลอดเวลา เช่น จะเปลี่ยนเสียง แซกโซโฟน ให้เป็นเสียง ขลุ่ย ได้ทันที เป็นต้น

- audio interface มีหน้าที่เปลี่ยน ( convert ) สัญญาณเสียงจากเครื่องดนตรีให้เป็นสัญญาณดิจิตอล analog to digital ในภาคขาเข้า (input) เพื่อเข้าสู่กระบวนการบันทึกโดยซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ตรงสู่ฮาร์ดดิส ในกรณีที่ต้องการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นที่ต้องการนักดนตรีชนิดนั้นมานั่งอัดกันสด ๆ เช่น เรียกมือกีตาร์ มาอัดกีตาร์ เป็นต้น และ audio interface ก็ยังมีหน้าที่อีกอย่างคือ เปลี่ยนสัญญาณ digital to analog ในภาคขาออก (output)เพื่อไปสู่มิกเซอร์ หรือลำโพงมอนิเตอร์ เพื่อใช้ฟังหรือมิกซ์เสียงเป็นต้น สิ่งที่อัดได้จาก audio interface คือ waveform

- MIDI PORT มีหน้าที่รับสัญญาณ MIDI จาก MIDI KEYBOARD เพื่อบันทึกลงบนซอฟแวร์ผลิตเพลง ซึ่งไม่ได้มีไว้แค่อัดเสียงคีย์บอร์ดเท่านั้น แต่มีไว้ป้อนข้อมูลที่เป็น DATA ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสียงกลอง เสียงเครื่องเป่า เสียงเบส เสียงเครื่องสายในวงออเคสตร้า เป็นต้น ซึ่งสัญญาณ  MIDI ดังกล่าว สามารถนำมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเล่นใหม่แต่อย่างใด สิ่งที่อัดได้จาก midi port คือ midi data

- เพลงแต่ละเพลง ก็คือส่วนประกอบของสิ่งที่เรียกว่า waveform และ midi data ที่ถูก playback ไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง

ปล.1 ถ้าอยากรู้รายละเอียดจริง ๆ ต้องสอนกันยาวนาน มากกว่าการอธิบายให้เข้าใจแค่ไม่กี่บรรทัดในเวบบอร์ดครับ ที่กล่าวไป แค่หลักการพอสังเขปสั้น ๆ เท่านั้น

ปล.2 ทำไมตอนผมเปิด รร สอน ไม่มาสมัครเรียนครับ 555+  

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

พอดีมีน้องคนนึงถามผมไว้ในกระทู้นึง ขอยกมาเสริมทัพด้วยละกันครับ >>

ที่บ้านมีคีย์บอร์ดอยู่ค่ะ แต่ตั้งไว้เฉยๆ เล่นเป็นแค่ไก่ๆกาๆ
อยากทราบว่า คีย์บอร์ด ใช้แต่งเพลงละเอียดกว่ากีตาร์ คือ มันทำอะไรได้คะ
ขอบคุณค่ะ

ขออนุญาตอธิบายคร่าว ๆ ให้น้องอุซึมากิฟังดังนี้ครับ ..

บนโลกเราทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง pop dance rock หรืออื่น ๆ ทั่วไปแทบจะร้อยละ 90 up ที่น้องอุสึมากิได้ยินได้ฟังตามวิทยุ ทีวี จากค่ายเพลงต่าง ๆ  ก็ล้วนผลิตมาจากคีย์บอร์ดทั้งนั้นแหละจ้ะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีตาร์ เบส กลอง เปียโน และทุกเสียงที่ได้ยินในแต่ละเพลง ล้วนมาจากการป้อน DATA ลงไปในซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ที่เรียกกันว่า DAW หรือ Digital Audio Workstation ทั้งในส่วนที่เป็นเมโลดี้ (ทำนอง ) และ ฮาร์โมนี่ ( การเรียบเรียงเสียงประสานต่างๆ  )โดยอาศัยลิ่มคีย์บอร์ดเป็นเครื่องมือในการป้อนข้อมูลเป็นหลักทั้งนั้นครับ แต่เป็นคีย์บอร์ดที่มีช่อง MIDI หรืออย่างน้อยสามารถต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทาง usb หรือ firewire ครับ ส่วนที่ใช้มนุษย์มาเล่นเพื่อบันทึกกันสด ๆ ก็เฉพาะกีตาร์เท่านั้นครับ บางทีกีตาร์ยังไม่ได้ใช้มนุษย์มาเล่นเลย โดยที่ผู้ฟังไม่สามารถแยะแยะออกครับ อุตสาหกรรมการผลิตเพลงpopในโลกนี้เลิกใช้มนุษย์มานั่งอัดสดกันมากว่า 20 ปีแล้วครับ ไม่รวมถึงบางอัลบัมที่อนุรักษ์นิยมที่ยังคงชอบฟิลลิ่งของการอัดสดเหมือนสมัยก่อน คงมีเหลือน้อยมากไม่ถึง 10% แล้วครับ

สรุป ทุกวันนี้คีย์บอร์ดตัวเดียว+คอมพิวเตอร์ และ DAW สามารถทำงานจบได้ทั้งอัลบัมที่บ้านได้เลยครับ 

[onoiaok]

ขอบคุณน้าBluemoon มากๆครับ ผมเข้าใจขึ้นมาเยอะเลยทีเดียว ผมจะลองอธิขายที่ผมเข้าใจในแต่ละข้อนะครับ

- เสียงเครื่องดนตรีที่เราได้ยินเหล่านั้น เกิดจากการเล่นหรือเขียน  DATA ที่เรียกว่า MIDI ( Musical Instrument Digital Interface ) โดยการเล่นผ่านลิ่มของ MIDI KEYBOARDS ลงไปในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งมีหน้าที่บันทึกสัญญาณ MIDI เหล่านั้นไว้ แล้ว playback ผ่านคลังเสียง ที่เรียกว่า soundmodule สมัยนี้ soundmodule ที่เคยเป็นฮาร์ดแวร์ราคาสูงลิบลิ่วในห้องอัดในอดีตนั้น ถูกแพคใส่ไว้เป็นซอฟแวร์บนคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมดแล้วที่เรียกว่า virtual sampler และ vsti

ผมเข้าใจว่า เราใช้MIDI KEYBOARDS เพื่ออัดเป็น DATA หรือเรียกว่า MIDI แล้วการ playback ก็ีคือการทำให้โน็ต MIDI เหล่านั้นเกิดเสียงโดยผ่านsoftware computer เช่น Virtual sampler,vsti ใช้หรือป่าวครับ

- สัญญาณที่ถูกบันทึกลงไปในคอมพิวเตอร์นั้น มันเป็นเพียงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เป็น WAVEFORM ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราอัดลงไปได้ตลอดเวลา เช่น จะเปลี่ยนเสียง แซกโซโฟน ให้เป็นเสียง ขลุ่ย ได้ทันที เป็นต้น

"สัญญาณที่ถูกบันทึกลงไปในคอมพิวเตอร์" ในทีนี้คือสัญญาณ MIDI ใช้รึป่าวครับ

- audio interface มีหน้าที่เปลี่ยน ( convert ) สัญญาณเสียงจากเครื่องดนตรีให้เป็นสัญญาณดิจิตอล analog to digital ในภาคขาเข้า (input) เพื่อเข้าสู่กระบวนการบันทึกโดยซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ตรงสู่ฮาร์ดดิส ในกรณีที่ต้องการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นที่ต้องการนักดนตรีชนิดนั้น มานั่งอัดกันสด ๆ เช่น เรียกมือกีตาร์ มาอัดกีตาร์ เป็นต้น และ audio interface ก็ยังมีหน้าที่อีกอย่างคือ เปลี่ยนสัญญาณ digital to analog ในภาคขาออก (output)เพื่อไปสู่มิกเซอร์ หรือลำโพงมอนิเตอร์ เพื่อใช้ฟังหรือมิกซ์เสียงเป็นต้น สิ่งที่อัดได้จาก audio interface คือ waveform

ข้อนี้ทำให้เข้าใจว่า WAVEFORM จากข้อที่แล้วคืออะไร แล้วถ้าเกิดเราอยากมิกเสียงรูปแบบ WAVEFORM ผ่านComputer โดยไม่ต้องใช้ Mixer ได้รึป่าวครับ ( Mixer มันแพง อิอิ)

- MIDI PORT มีหน้าที่รับสัญญาณ MIDI จาก MIDI KEYBOARD เพื่อบันทึกลงบนซอฟแวร์ผลิตเพลง ซึ่งไม่ได้มีไว้แค่อัดเสียงคีย์บอร์ดเท่านั้น แต่มีไว้ป้อนข้อมูลที่เป็น DATA ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสียงกลอง เสียงเครื่องเป่า เสียงเบส เสียงเครื่องสายในวงออเคสตร้า เป็นต้น ซึ่งสัญญาณ  MIDI ดังกล่าว สามารถนำมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเล่นใหม่แต่อย่างใด สิ่งที่อัดได้จาก midi port คือ midi data

ข้อนี้เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ

ปล.1 ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับพิมพ์ตอบมาแบบไม่กั้กเลย ขอบคุณมากครับ
ปล.2 ตอนที่น้าBluemoon เปิด รร สอน สงสัยผมยังเล่น วิ่งไล่จับ แปะแข็ง ที่โรงเรียนอยู่เลยครับ (แซวขำๆนะครับ อยากทราบว่าน้าBluemoon เคยเปิดสอนเมือนานมารึยังครับ หรือว่าเพิ่งปิดไป)

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

น้อง onoiaok เข้าใจถูกต้องทั้งหมดแล้วครับ

ที่ถามว่า ไม่ต้องใช้มิกเซอร์ได้ไม๊ ตอบว่าได้แน่นอนครับ เราสามารถมิกซ์งานทั้งหมดได้จากในซอฟแวร์ที่เรียกว่า DAW ต่าง ๆ เช่น LogicAudio, Cubase, Sonar และอีกมากมายได้จบงานทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ได้เลย โดยไม่ต้องใช้มิกเซอร์ครับ

ปล.1 ด้วยความยินดี และเต็มใจที่จะเผยแพร่ความรู้ทั้งหมดครับ
ปล.2 เปิดมาตั้งแต่ 10 ปีก่อนครับ 5555+

[onoiaok]

น้อง onoiaok เข้าใจถูกต้องทั้งหมดแล้วครับ

ที่ถามว่า ไม่ต้องใช้มิกเซอร์ได้ไม๊ ตอบว่าได้แน่นอนครับ เราสามารถมิกซ์งานทั้งหมดได้จากในซอฟแวร์ที่เรียกว่า DAW ต่าง ๆ เช่น LogicAudio, Cubase, Sonar และอีกมากมายได้จบงานทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ได้เลย โดยไม่ต้องใช้มิกเซอร์ครับ

ปล.1 ด้วยความยินดี และเต็มใจที่จะเผยแพร่ความรู้ทั้งหมดครับ
ปล.2 เปิดมาตั้งแต่ 10 ปีก่อนครับ 5555+

เมื่อ 10 ปีก่อนผมอายุ 8 ขวบ ตอนนั้นยังเรียนป.2 อยู่เลยครับ ไม่แน่ใจว่าจะรับสอนไหม อิอิ

น้า bluemoon ช่วยแนะนำ Audio interface ที่สามารถอัดได้หลายๆ track พร้อมกันในราคาที่ประหยัดที่สุดให้หน่อยนะครับ(ไมค์ร้อง กีต้าร์ เบส กลอง) พอดีผมอยากให้ทุำกคนมีส่วนร่วม ได้มาแจมกัน สนุกสนาน
เพราะแต่ละคนพอจบ ม.6 ก็แยกย้ายกัันไปเรียนตามที่ตัวเองสนใจ นานๆจะได้มาเจอกันซักที ปิดเทอมนี้เลยมีโปรเจค ว่ามานั้งทำเพลงกันสนุกๆ ดีกว่า
ที่ผมดูๆไว้ก็ http://www.focusrite.com/products/saffire/saffire_pro_24/ แต่ผมงงว่าเขาบอก 16 in 8 out แต่ผมนับแล้วมันไม่ครบเลยงงๆว่ามัน 16 in ตรงไหน

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

55555555+

มันนับรวม in ทั้งหมดทั้งที่เป็น analog in และ digital in ไงครับ ซึ่งที่เรามักใช้งานกันได้บ่อยจริง ๆ มีแค่ไม่กี่ช่องเองครับ พี่ว่าไม่ค่อยคุ้มกับราคานี้ครับ

----------------------

ในกรณีที่อยากได้ interface ที่สามารถอัดแบบ live พร้อมกันได้เยอะ ๆ ต้องเลือกที่เป็น analog in เยอะ ๆ ครับ ซัก 8 in/8out เป็นต้น

ตัวที่พี่อยากแนะนำคือ ESI : ESU1808 ราคา 18,000 บาท ดีและคุ้มค่าที่สุด ณ นาทีนี้แล้ว



นับเฉพาะภาค analog ได้ 12in/8out ถ้านับรวมภาค digital ด้วย จะมีถึง 18in/8out และคุณภาพเสียงที่ได้นั้นสามารถบดขยี้เชือดเฉือน interface ยี่ห้อหรู ๆ บางยี่ห้อในระดับราคา 3-8 หมื่นบาทได้สบายมาก ทั้งยังมี midi in/out มาให้ด้วย รวมถึงการเชื่อมต่ออื่น ๆ ที่มีมาให้ก็ค่อนข้างครบครัน  มากเพียงพอที่จะใช้งานได้ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น จนถึงระดับมืออาชีพได้สบาย ๆ ครับ

[~ พระจันทร์สีฟ้า ~]

ราคาสูงกว่า SaffirePro24 ไม่กี่พัน แต่คุ้มค่าครบเครื่องกว่าแน่ ๆ ลองพิจารณาดูนะจ๊ะ  

[onoiaok]

ผมก็เล็งๆตัวนั้นไว้เหมือนกันครับ  ยิ่งมีคนมาconfirm ผมคงได้เสียเงินเก็บก็คราวนี้แหละครับ

ผมมีข้อสงสัยเพิ่มอีกแล้วครับ จากในรูป ( ยืมรูปของเจ้า SaffirePro24 มา เพื่อสะดวกต่อการอธิบาย)
http://www.focusrite.com/media/image_registry/1466443pop.jpg

-ในช่ิอง midi out มันต่อไป sound module  แล้วถ้าผมไม่มี sound module ที่เป็น hardware ผมจะต้องเอา midi out ไปต่อที่ไหน ต่อกับคอมหรอครับ ที่คอมมันมี port midi ด้วยหรอครับ
หรือต้องซื้อแจ็คที่มีหัวที่ต่อเข้า port ของคอมได้ (เช่น port usb)

-ตอนนี้ผมมี korg M50 อยู่แล้ว ซึ้งมันก็เป็น midi controller ได้ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด) และมันก็มีเสียงในตัวเอง
ผมเห็นในหนังสือบางเล่มเค้าก็ต่อทั้ง midi in และ out เข้ากับ คีบอร์ดตัวเดียว มันเหมือนกับการเอาเสียงจากตัวมันเอง (เปรียบเสมือนกับมันคือsound module ในตัวมันเอง)
และก็ใช้ key ของมันเองเป็นตัว controller  (เปรียบเสมือนกับ midi Controllers) ใช้รึป่าวครับ

-แล้วถ้าในกรณีที่ผมอยากใช้เสียงต่างๆ ที่อยู่ในโปรแกรมจำลองsound module เช่นvsti โดยใช้แค่ korg M50 เป็น keyboard contolller สามารถใช้ได้รึป่าวครับ

ปล.ยิ่งได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มยิ่งสงสัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลย
ปล.2 ขอบคุณสำหรับความรู้อีกครั้งครับ