เพื่อนๆคิดอย่างไรถ้า..................
คือ ผมจองกีต้าร์ตัวนึงไว้ + pick up ในใบจองก็ระบุชัดเจนว่าจองทั้งสองอย่าง และจ่ายเงินมัดจำไปแล้ว 10% ของราคารวม
รอไป 1 เดือน กีต้าร์มาแล้ว โทรมาให้ผมไปรับ แต่พนง. บอกว่าไม่มี pick up ให้นะ เพราะขายไปหมดร้านแล้ว ถ้าจะเอารอไปอีกสองเดือน
ผมควรยอมรับโดยดีใช่ไหมว่าเป็นสิทธิของร้านที่จะขายไปได้ ถ้าเป็นที่เมกาโดนฟ้องแน่แบบนี้
สิทธิของผู้บริโภคบ้านเรายังไม่แข็งแรงครับ ลองดูเรื่องเรือน้ำตาลล่มในแม่น้ำเจ้าพระยาซิครับ ทั้งจังหวัดและหน่วยงานรัฐยังไม่มีปัญญาทำไรเลย เฮ่อ..
ถ้าถามว่าเป็นสิทธิของร้านที่จะขายไปได้หรือไม่>>>>ก็ถูกของเขาแหละครับ เขามีสิทธิที่จะขาย
หากเราจะโต้แย้งบ้าง ก็มีสิทธิ์ที่่จะทำได้ครับ แต่จะคุ้มหรือไม่คุ้มเท่านั้นเอง
ต้องถามว่าในใบจองนั้น..ระบุวันที่ส่งมอบหรือเปล่าครับ >>>>> ถ้าไม่ระบุแต่ให้รอวันเวลาส่งมอบแบบปากเปล่าก็ ลำบากแล้วแหละ กรณีนี้ตกลงขอเงินคืนก็น่าจะได้
ถ้าระบุวันที่ส่งมอบ และล่วงเลยกำหนดระยะเวลามาแล้ว ก็ถือว่าทางร้านผิดสัญญาครับ อาจารย์ก็เลือกได้สองทาง คือบอกเลิกไม่ต้องการแล้วเอาเงินคืน
ก็เรียกร้องค่าเสียหายไป (คงได้ชาติหน้านะ5555)
อีกทางไม่เลิกสัญญา>>>> แจ้งให้ส่งมอบสินค้าตามสัญญาที่จองไว้ภายในกำหนด.....วัน และรับเงินส่วนที่เหลือไป (คงไม่มีให้หรอกขายไปแล้ว)
หากไม่ส่ง หรือส่งไม่ได้ก็ให้คืนเงินค่ามัดจำพร้อมค่าเสียหายเท่า.....บาท(คงได้แต่เงินมัดจำ) ถ้าจะใช้กฎหมายก็ต้องฟ้องให้ส่งมอบส่งไม่ได้่ก็คืนเงินพร้อมค่าเสียหาย ทีนี้เรื่องค่าเสียหายก็ต้องมานั่งพิสูจน์ว่าเสียหายไรบ้าง เช่นต้องใช้กีตาร์ตัวนี้ขึ้นเวทีใหญ่ หรือได้เอาไปขายต่อแล้วจะได้กำไรสัก 1 แสน คล้ายเรื่อง
ที่ดินแหละฟ้องกันไปพิสูจน์กันไปจะได้หรือไม่เท่าไรก็แล้วแต่ศาล ดีหน่อยร้านยอมจ่ายก็ดีไป แบบนี้โคตรยุ่งยากเสียตังมากกว่าค่ากีตาร์อีก และอีกทาง
เราก็ร้องเรียนคุ้มครองผู้่บริโภค(หาเรื่องลำบากละ)
เป็นสิทธิของร้านที่จะทำ เราก็มีสิทธิที่จะเรียกร้อง (แต่ยุ่งยาก ยาวไกล ใช้เวลานานไม่คุ้มเสีย)
ึความเห็นส่วนตัวนะครับ การนำเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังโดยมิได้วิพากษ์วิจารณ์หรือด่าทอ ใช้ถ้อยคำหยาบ เสียดสี ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย น่าจะเป็นทางออกของผู้บริโภค ซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ เพื่อทำให้เสียงของเราซึ่งเล็กๆๆ ดังขึ้นบ้างในสังคมร้านค้า น่าจะเป็นปากเป็นเสียงของสังคมเรา และเป็นการป้องปราม และคุ้มครองสิทธิของเราได้บ้างนะ หากถูกเอาเปรียบแล้วพูดไม่ได้เลยนี่ แล้วเราจะได้รับการบริการที่ดีได้อย่างไร อย่าลืมว่าหากมี
ข้อพิพาทเกิดขึ้นจริงจากกรณีนี้ ก็จะได้พิสูจน์กันละว่าที่เราพูดเราร้องเรียนนั้นจริงเท็จอย่างไร หากไม่จริงผู้ซึ่งกล่าวหาเขาก็รับไปตามกฎหมายอยู่แล้ว
บางครั้งสิ่งที่เรานำเสนออาจเป็นกระจกเงาให้กับร้านค้าพวกนี้บ้างก็ได้ เนื่องจากเจ้าของอาจไม่ทราบว่าลูกจ้างในร้านมีพฤติกรรมเช่นไรบ้าง เพื่อปรับปรุ่ง
บริการให้ดีขึ้น หากไม่อาจระบุร้านได้โดยตรงเราก็หลีกเลี่ยงใช้ชื่อย่อ หรือสัญญลักษณ์ใดๆ ก็ได้ ก็น่าจะดีกว่า และยิ่งเป็นร้านที่เป็นสปอนเซอร์ให้เวป
ก็น่าจะคุยกันได้ง่ายขึ้นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไรนะครับ
หากความคิดเห็นไม่ถูกต้องก็ลบได้ทันทีครับ ขอบคุณมากครับ