ขอบคุณน้าๆ ทุกๆท่าน ที่ช่วยกันร่วม แชร์ความเห็น และรสนิยมส่วนตัว ของแต่ละท่าน
ถือว่า สนุกสนาน และบอกเล่าถึงมุมมองของเราเองครับ ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกๆความเห็นครับ
บางท่านตอบได้เหมือนกับตาเห็นเลยทีเดียว แม้ไม่ถูกหมด แต่บางความเห็น เหมือนกับมาเห็นด้วยตาตัวเอง เลย ^^
เดี๋ยวขอรอน้าๆ อีกสัก 3-5 ความเห็น นะครับ โดยเฉพาะน้า ...redtopup ผมต้องรอน้าก่อน comment ก่อน ^^"
แล้วจะมาเฉลยว่า ตัว A และ B อะไรคืออะไรกันบ้าง นะครับ
ขอคุณน้ามากครับที่ให้เกียรติมาก
ฟังก็เหมอนอย่างที่น้าๆ ทุกๆท่านเลยครับ
ความกลมของเสียง เสียงaกลมกว่า สมดุลย์ของเสียงเด่นกว่าb
เสียงaมีความสงบสุขุม ลุ่มลึกและกลมกลืน ในขณะที่ b เปิดเผยรายละเอียดซ่อนเร้น เหมือนผู้หญิงที่ เเต่งหน้าทาปาก ในขณะที่ a เรียบๆสวยแบบเดิมๆ ไม่จืดแต่กลมกลืน
aเหมือนเสียงของระบบอณาล๊อคแบบแผ่นเสียง b คล้ายกับ ดิจิต้อนที่แจงแจงในอณูที่ละเอียดใส
สำหรับผมๆเลือก a
ส่วนตัวสำหรับผมกีต้าร์คลาสสิคที่เสียงราบเรียบจะเล่นเพลงได้หลากหลายกว่ากีต้าร์ที่แจงแจงรายละเอียดเสียงสูงๆ กีต้าร์ที่ช่างแจกแจงรายละเอียดเล่นนานๆ ผมพบว่า เป็นความชอบแค่ไม่นานเอง ในเวลาแรกๆที่ได้มันมาครอบครอง
กีต้าร์ที่หางเสียงยาวๆ บางครั้งก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะโน๊ตบางตัวก้องยาวเกินไปจนเลยมาชนกับโน๊ตตัวถัดไป กีต้าร์ที่หางเสียงยาวๆ จะทำให้สายกีต้าร์อีกเส้นสั่นไปด้วยแม้ไม่ได้ดีด ถ้าสั่นยาวไป เสียงเหมือนอู้อยู่แต่ในโพรงกีต้าร์ไม่พุ่ง ฟังไกลๆ ไม่พุ่ง
การเอาไมค์มาจ่อแล้วอัด ผมว่าได้ เป็นไกค์นำทาง ที่ดีระดับนึงทีเดียว
ถ้า เอากีต้าร์ทั้ง 2 ตัวเข้าห้องอัดเสียงแล้วทำแผ่นออกมา ผมเลือกเสียง a แต่ถ้าเล่นสดๆ คงต้อง เลือกอีกครั้ง เพราะเสียง b เป็นกีต้าร์ที่เสียงดังกว่า
ในกีต้าร์ที่เสียงทึบๆอ้วนๆ เสียงช้าๆ อิมแพค สัมผัสแรกของแรงปะทะ การถ่ายทอดพลังงานการสั่นช้า การจางหายของเสียงเร็วไป บางทีอาจจะฟังว่าความสมดุลย์เสียงของมันดีแต่มันก็แจงแจงรายละเอียดไม่ได้เรื่อง มันคนละความหมายกับกีต้าร์ที่สมดุลย์ของเสียงดีที่แจกแจงรายละเอียดได้ดีด้วย กับ กีต้าร์ที่อิมแพคสัมผัสแรกไวและการตอบสนองไว กลับฟังว่าสมดุลย์เสียงยังขาด ผมว่า สองอย่างนี้แหละคือ สิ่งที่เราๆกำลังหากันอยู่ ว่าเราจะชอบแบบไหนกัน แน่ๆ เพราะ มันขัดแย้งกันเองโดยธรรมชาติของมัน เพราะการโรยตัวของเสียงนั้นเองเมื่อมันกำลังสั่นน้อยลง
เหมือน เครื่องเสียง สัญชาติ อังกฤษ อเมริกา อิตารี่ ฝรั่งเศษ เยอรมันนี ญี่ปุ่น จับอาตัวเด่นๆของยี่ห้อต่างๆออกมา ฟัง ต่างก็เสียงดีทั้งนั้น
อะไรคือ ความคลาสสิค ของเสียง ถ้าลองสังเกตุเพลงคลาสสิคนั้น ฟังมาตั้งนาน ช่วงแรกๆไม่เพราะเอาเลยฟังไม่เห็นจะเข้าหูเลย แต่พอมาอีกท่อน กลับเพราะมากๆ ก็คงเพราะผู้เรียบเรียงตั้งใจให้ ในส่วนที่เพราะจะได้เด่นได้จริงๆ ติดหูได้จริงๆ จึงต้องสร้างเรื่องราวให้ค่อยๆมาก่อน กับบางเพลง ไหลมาเรื่อยๆเพราะทั้งเพลง ฟังได้ทั้งท่อน แต่ฉไหน เพลงบางเพลงที่เราฟังบางท่อนมันไม่เห็นเพราะเลย แต่พอฟังนานๆเข้า อืม มันช่วยส่งให้ท่อนที่เพราะๆมากยิ่งขึ้นไปอีก อืม มันมีความสมดุลย์ของการเรียบเรียงดีจริงๆ
เรื่องของดนตรีผมว่ามัน ลุ่มลึกมากๆ อยู่ที่การฟังของแต่ล๊ะคนด้วย จะเอาฟังแล้วติดหูทันใจก็ เชี๊ยบึ้มแบบเพลงไทยไปเลย ถ้าแบบเรียบเรียงเเบบให้ติดหูไวๆ ก็ เอาทำนองง่ายๆไม่ซับซ้อน เนื้อร้องความหมายซ้ำไม่กี่พยางค์ ไม่ต้องมีคล้องจองของ พญันชนะอักขระ แต่อาศัย ความกระชับสั้นๆของคำร้องซ้ำๆกัน เปรียบได้กับเครื่องเสียงญี่ปุ่น ที่ ให้ติดหูไวๆ ไม่ลุ่มลึก
มาเครื่องดนตรี มันก็คงเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลแล้วก็คงเหมือนกัน อันไหนติดหูได้ช้าแต่คงที่ตลอด ผมว่ามันคือ อะไรที่คลาสสิคแบบของคลาสสิคทั้งหลาย แอนทีค อะไรประมาณนั้นแน่ๆครับ
