Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครอยากรู้วิธีการเล่นกีต้าร์แบบสายเปิด (Opentune) ช่วยส่งเสียงเรียนเชิญน้า เดอะตู่ มาช่วยสอนกันเถอะ  (อ่าน 43063 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ยินยอม

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,817
  • เพศ: ชาย
  • กีตาร์ดีอยู่ที่คนเล่น
ทะเลภูเก็ต โดยท่าน อ.Anat ครับ

ทะเลภูเก็ต Esan Meeting @The Terrace Resort (Covered by aj.Anat)
:)

sonic

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,517
แจ๋วมาก กระทู้นี้ รอฟังคำแนะนำจากน้าๆ ครับ

Anat

  • บุคคลทั่วไป
เราเคยให้น้ายินยอมรวบรวมเพลง Slack key ตั้งหลายสิบแผ่นที่เรามี
เห็นแกเก็บเอาไว้ใน stick อะไรนี่แหละ แล้วก็สำเนาให้น้าจิม ด้วย
จำได้ว่าเคยมีสมาชิกในบ้านไม้อยากได้เพลงฮาวาย
ตอนเราเรียนที่โน่นซื้อ CD Slack key ไว้เพียบเลย  ของ Dancing cat records

ที่น่าสนใจคือ เจ้าสำนัก Dancing cat คือ  George Winston  ซึ่งเป็นนักเปียนโนในสังกัด Windhamhill Records   ของพ่อ Will Ackerman เค้า
แต่ปรากฎว่า พ่อ George นี่ เล่นกีต้าร์เก่งเอาเรื่องเลย   แกทดสายแม้กระทั่งเปียโน
หมายความว่า เปียนโนของแก ตั้งสายพิเศษ ไม่เหมือนเปียโนทั่วไป  เคยดูคอนเสริ์ทแกอยู่  เวลาเล่น มีแอบเอามือไปล้วงในเปียโนด้วยแฮะ
บ้านเรา อัลบั้มที่ดังก็ December เพลง Canon    แล้วแกก็ออกมาอีกหลายอัลบั้มเกี่ยวกับฤดู  Winter...Autumn  ไปเรื่อย

Johann Pachelbel Canon Piano (George Winston)


อันนี้แกเล่น Slack key ครับ

George Winston playing the guitar

TOM1869

  • member
  • ***
  • กระทู้: 19,247
อาจารย์ youtube อันนี้ของตา George Winston นี่ ผมก็ ก๊อปไว้นานแล้ว ฟังบ่อยมาก กะจะให้ลูกชายหัดเล่น มันยังไม่ get สักที บอกไม่มี note
Line id: 081-8718003

Anat

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องดูโน้ตเลย  ได้ข่าวว่าเค้าจูนเปียนโนใหม่  ฟังอย่างเดียวละกัน
ก็กีต้าร์มันทดสายได้  ทำไมเปียนโนจะตั้งสายใหม่ไม่ได้

อ้าวววว..ถือว่าพวกเราโหมโรงรอกันไปก่อนละกัน รอน้าเดอะตู่ ตัวจริงเสียงจริง มาว่าต่อครับ

Kwang @ Uttaradit

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,470
  • Kwang @ Uttaradit

      เป็นความรู้ ที่ต้อง ตั้ง Folder เก็บข้อมูลเรื่องนี้ เก็บไว้ เป็นการเฉพาะเลย 

      เพราะเป็นเรื่องที่ ถือว่า  ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่เลย  สำหรับผม  (เล่นกีต้าร์ มาก็นาน  แต่เรื่องนี้ ดันไม่รู้เรื่องเลย สักนิด)

      ต้องขอบคุณ ผู้รู้ ทุก ๆ ท่าน ที่กรุณาสละเวลา มาร่วมแชร์ความรู้ และประสบการณ์ อันมีคุณค่ายิ่ง และยังรอรับความรู้ เพิ่มเติม อีกนะครับ


Finger Picking Style

natthaphon saeng

  • member
  • ***
  • กระทู้: 105
  • อยากก็เล่น เบื่อก็เลิก
เริ่มแล้วครับตั้ง D G D G B D อย่างอ.Anatว่าขวาก็เกา ตุ๊ง...ตุ่ง...ตุ๊ง...ตุ่ง...ตุ๊ง...ตุ่ง...ตุ๊ง...ตุ่ง...
ซ้ายก็โซโลมั่วและงงนิดหน่อยถึงปานกลาง ไงต่อครับ...

OLARN

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,104
  • เพศ: ชาย
    • OLARN2000
เอาด้วยวุ้ยยยย...จะได้เป็นวงสนทนาที่หลากหลาย

ขอออกตัวก่อนนะว่า  เราไม่ใช่นักกีต้าร์ที่มีทฤษฏีอะไร  อ่านโน้ตไม่เป็น
แต่เราพอเล่นสายเปิดบ้าง  แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เล่น บวกกับขี้เกียจตั้งสายใหม่

เข้าใจว่าที่เราเรียกกันสายเปิด..สายเปิด  หรือ Open string   จริงๆแล้ว มันเป็นสับเซ๊ท ของ Alternative Tuning  มากกว่า
คือการตั้งสายกีต้าร์มีแบบ Standard tuning  กะ  Alternative tuning   ซึ่งเราก็มักจะเรียกกันแบบชาวบ้านว่า  "ตั้งสายทด"

บ้านเรา ศิลปินคนแรกที่ออกอัลบั้มแล้วตั้งสายทด ก็ ปานศักดิ์  รังสิพราหมณกุล   เพลง ชายทะเลภูเก็ต  2526 อันนั้นตั้งสาย Open G
ต่อมา เพลง สายรุ้ง ใช้ Drop D (สาย 6)     แล้วก็  แสงตะวัน  ใช้ Open G อีกเหมือนกัน
สมัยก่อนแกะเพลงพวกนี้  งงแทบตาย  ถ้าไม่ได้เห็นมิวสิควีดีโอที่เฮียแกเล่น   ป่านนี้ก็งมโข่งกันตายเลย
แต่ถ้าสมัยนี้ ก็ต้องยกให้พี่โอ๋  ธีร์  ไชยเดช  คนนี้ขั้นเทพ  ชั้นจตุมหาราชิกเลยครับ  (ชอบมากมาย เป็นการส่วนตัว)

เราเองได้มีโอกาสฟังอัลบั้ม Slack key Guitars ประมาณปี 92-93  หูยยยยเพราะชิบเป๋ง   เลยอยากเรียนมั่ง
พอตอนที่สมัครเข้าเรียนต่อ ถาปัด  ก็เลยเลือกเรียนที่ฮาวาย ปี 95 ไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่า ไปเรียน หรือ ไปเล่นกีต้าร์..งิ..งิ..
ที่ฮาวาย เป็นสวรรค์ของนักเล่นกีต้าร์ทดสายเลยล่ะครับ   เพราะเกือบทุกเพลงทดสายกันทั้งนั้น
มีแบบทดสายให้เลือกเล่นมากมาย   เราเองก็เล่นอยู่หลายแบบ   แต่ตอนนี้ลืมไปแระ 
ที่ฮาวาย ทางรัฐบาลเค้าจะจ้างนักดนตรีมาสอนให้ประชาชนเล่นกีต้าร์  เล่นอูกู   ค่าเรียน 5 เหรียญเอง  รัฐสนับสนุน

Open G   D-G-D-G-B-D  ที่โน่นเรียกว่า Taro patch tuning   อันนี้เป็นครูเลย  ทุกคนต้องผ่านอีนี่ก่อนเลย
Concept ของมันคือว่า...เราสามารถเล่นเมโลดี้ได้โดยไม่ต้องกังวลถึงเบส  เพราะมี G..D..G..D  คอยคุมอยู่
เวลาเล่นก็ ตุ๊ง...ตุ่ง...ตุ๊ง...ตุ่ง....ตุ๊ง...ตุ่ง...ตุ๊ง...ตุ่ง.   ไปเรื่อย
ดีดเปล่าไม่จับอะไรเลย เป็น คอร์ด G
ทาบเฟรท 5 เป็นคอร์ด C... ทาบเฟรท 7 เป็นคอร์ด D
นอกจากนี้ Tuning แบบนี้ยังสามารถเล่นเพลง Delta Blues ก็ได้นะ  สามารถใช่สไลด์ก็ได้ซิเออ
ลองเปิดหาดูในยูธูป   Blues in Open G  ครับ  มีเพียบ

นอกจากนีี้ยังมี tuning อื่นๆ อีกเยอะ  C Mauna loa ....C Wahine....ฯลฯ  ตามแต่ศิลปินเค้าจะตั้งชื่อกัน
ส่วนใหญ่ Tuning ที่เราเห็นบ่อย  ก็เช่น   D-A-D-G-A-D  อ่านว่า แด๊ดแก๊ด    D-A-D-F#-A-D อ่านว่า แด๊ดแฟ๊ด    เป็นต้น

อีกพวกนึงที่ทดสายตัวพ่อง..เลย  ก็คือ พวก  Newage    โดยการนำของเจ้าสำนัก Windhamhill  ..Will Ackerman
ซึ่งก็มีลูกน้องจอมทดสายที่บ้านเราชื่นชอบก็เช่น  Michael  Hedges..Alex de Grassi...
ซึ่งถ้าจะไล่กันต่อไป  Will Ackerman  ก็ได้รับอิทธิพลการเล่นจาก  John Fahey   ปรมาจารย์ finger style รุ่นเจ้าคุณปู่เลยล่ะครับ

สำหรับนักดนตรีที่รู้จักกันทั่วไปที่ทดสายก็เช่น  Stefen Stills   ..David  Crosby......Eric  Clapton...David Wilcox
เคยมีคนล้อว่า Joni Mitchell เป็นสอนให้ CSN  ตั้งสายกีต้าร์สายทด  เพราะพวกนี้ตั้งไม่เป็น  ต้องให้เจ๊แกสอน
น้า John Denver นี่ก็ใช่  แต่แกจะ drop สาย 6 เป็น D    สังเกตว่า คอร์ด G แกจะจับเบสสาย 6 ที่เฟรท 5

เอาแค่นี้ก่อน  พอหอมปากหอมคอ  เราถ่ายวีดีโอลงยูธูปไม่เป็น (โง่+โลว์เทค)  ม่ายงั้นจะช่วยสอนให้จร้า



ตกลงเฮียไปเรียนกีตาร์ต่อนี่เอง ดีเลยครับ เอาไว้ใกล้ๆ จะไปสูบวิชาที่ขอนแก่นนะเฮีย
สายเปิดนี่ผมไม่ค่อยเล่นเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่ตั้งสายเปิด DADF#AD ไว้เล่นสไลด์บลูส์อย่างเดียวเลย อย่างอื่นขี้เกียจตั้งสายอ่ะ พอลองตั้งพวก DADGAD หรือ CGCGBD ก็ไล่ตัวโน้ตไม่ถูกเลย หาฟอร์มนิ้วจับคอร์ดไม่ได้ ไปๆ มาๆ เลยคิดว่าเล่น standard tuning ดีกว่า เหอๆๆ ;D

FOTOBEER

  • member
  • ***
  • กระทู้: 5,404
  • เพศ: ชาย
  • fotobeer2516แอ๊ดgmail.com
เอาของเก่ามาเล่าใหม่ละกันครับ น้าสนอุตส่าชวนมา.......อิอิ  รอพี่เดอะตู่ไปพลางๆ ก่อนละกัน เผื่อสมาชิกใหม่ยังไม่ได้ดูครับ

การจูนสายของผม ผมจะจูนออกมาแล้วดีดเสียงเป็นคอร์ดนั้นเลย  เราชอบเสียงของคอร์ดอะไร เราก็เอาโน๊ตในคอร์ด จับมายัดใส่ในสายเปิดเลย สลับกันไปมา  ดีดแล้ว มันก็ยังคงเป็น เสียงโดยรวมของคอร์ดนั้นอยู่ครับ
Talk C#m7add9


เพลงที่ผมแต่งเอง
Tuning C#m7add9 (Demo)


ส่วนอันนี้ผมก็ลองจูนเป็นเสียงของคอร์ด Dm7add11add9

test DAFGCE 6-1 Tuning


สายสายบนจะเป็นเสียงของคอร์ด Dm  ไล่มาจากสาย 6 คือ D  สาย5คือ A   สาย6 คือ F  ส่วน 3 สายล่างจะเป็นโน๊ตเสริม คือโน๊ต เท็นชั่นทั้งหมด สาย3 คือ G  เป็นตัวที่11 ของสเกล Dm   สาย 2 คือ C เป็น ตัวที่7 ของสเกล Dm หรือ ตัว ไมเน่อร์7 ส่วนสาย1 คือ E เป็นตัวที่ 9 ของสเกล Dm
ลองดูในเรื่อง เท็นชั่นคอร์ดที่ผมเคยทำไว้แล้วตามนี้ ของ ก็อปปี้มาวางเลยนะครับ

มาไขความลับของ Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) กันดีกว่าครับ

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำเรื่อง Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) ก่อนอื่นผมต้องขอบอกนะครับว่าโดยส่วนตัวแล้วผมเล่นไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยได้ฝึกภาคปฏิบัติซักเท่าไหร่ แต่พอจะมีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎี ดนตรี อยู่บ้างเล็กน้อย ก็เลยอยากจะมาบอกต่อกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ บางท่านที่ยังไม่รู้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

Chord (คอร์ด) คือ เสียงของโน้ต ที่รวมตัวกันตั้งแต่ 3 เสียงขึ้นไป มีทั้งคอร์ด 3 เสียง / 4เสียง / 5เสียง และ อื่นๆ อีกมากมาย
Tension (เท็นชั่น) แปลว่า ความตึงเครียด
Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) แปลว่าคอร์ดที่มีความตึงเครียด
Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) มีอยู่ในดนตรีทุกประเภท แต่ที่ใช้กันแบบไม่ประหยัดเลย ก็ในดนตรี Jazz นี่ใช้เยอะมาก มีทั้งโน๊ตเท็นชั่น ที่อยู่ในคีย์ และเท็นชั่นที่อยู่นอกคีย์ วันนี้ผมจะพูดถึง โน๊ตเท็นชั่นในคีย์อย่างเดียวก่อนนะครับ
ก่อนจะไปเรื่อง Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) ผมจะพูดถึงที่มาที่ไปของคอร์ดก่อนละกันครับจะได้ไม่งง!!!!

ขอยกตัวอย่างจาก Scale Cmajor มันจะเข้าใจง่ายที่สุดแล้ว (เราควรจะรู้โน้ตบนคอกีตาร์ให้หมดก่อน หาได้จากกูเกิ้ลครับมีเยอะแยะมากมาย)
Scale Cmajor ประกอบไปด้วยโน้ต C D EF G A BC
C กับ D ห่างกัน 1ช่องบนคอกีตาร์ /D กับ E ห่างกัน 1ช่องบนคอกีตาร์
E กับ F ช่องจะติดกัน บนคอกีตาร์ /F กับ G ห่างกัน 1 ช่องบนคอกีตาร์
G กับ A ห่างกัน 1 ช่อง บนคอกีตาร์ /A กับ B ห่างกัน 1 ช่องบนคอกีตาร์
B กับ C ช่องจะติดกันบนคอกีตาร์ พอจะเข้าใจไหมครับ ลองค่อยทำความเข้าใจไปทีละขั้นตอนนะครับ ไม่เข้าใจตรงไหนอ่านตรงนั้นให้เข้าใจก่อน ถ้าอ่านทีเดียวหมดมันจะเข้าใจยากครับ ค่อยทำความเข้าใจไปทีละขั้นนะครับ
****อันนี้สำคัญมาก ว่าโน้ตตัวไหน เป็นลำดับที่เท่าไหร่ ของสเกลไหน มันจะส่งผลกับหลายๆอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตเท็นชั่นที่ผมกำลังจะกล่าวถึง หรือเรื่องของโมด เรื่องอาร์เพ็กจิโอ้ และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย มันจะอ้างอิงมาที่ตรงนี้หมดละครับ ตอนนี้ขอแค่ให้จำตรงนี้ให้ขึ้นใจก่อน เอาแค่ว่าโน้ตตัวไหน เป็นลำดับที่เท่าไหร่ ของสเกล C
C เป็นโน้ตตัวที่ 1 ของ Cmajor Scale
D เป็นโน้ตตัวที่ 2 ของ Cmajor Scale
E เป็นโน้ตตัวที่ 3 ของ Cmajor Scale
F เป็นโน้ตตัวที่ 4 ของ Cmajor Scale
G เป็นโน้ตตัวที่ 5 ของ Cmajor Scale
A เป็นโน้ตตัวที่ 6 ของ Cmajor Scale
B เป็นโน้ตตัวที่ 7 ของ Cmajor Scale
C เป็นโน้ตตัวที่ 8 หรือตัวที่1 นั่นเองของ Cmajor Scale (วนกลับมาเป็น Octave (อ็อคเท็ฟ) ต่อไป)
*****ข้อสังเกตุ BC ติดกัน / EF ก็ติดกัน ******
Octave (อ็อคเท็ฟ) คือ โน้ตเดียวกัน แต่เสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน
ตัวอย่าง
จาก Note E สายเปล่าที่สาย 6 ข้ามไปถึง Note E ที่สาย6 ช่อง12 นี่คือ 1 Octave
จาก Note E สายเปล่าที่สาย 6 ข้ามไปถึง Note E ที่สาย2 ช่อง5 นี่คือ 2 Octave
จาก Note E สายเปล่าที่สาย 6 ข้ามไปถึง Note E ที่สาย1 ช่อง12 นี่คือ 3 Octave

คอร์ด 3 เสียง (Triad Chord) คือนำโน้ตในสเกล ตัว เว้น ตัว ก็จะได้ดังนี้
คอร์ด 3 เสียงทั้งหมดใน สเกล C Major จะได้ดังนี้
เริ่มจาก C เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ C-E-G คือ คอร์ด C
นับ D เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ D-F-A คือ คอร์ด Dm
นับ E เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ E-G-B คือ คอร์ด Em
นับ F เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ F-A-C คือ คอร์ด F
นับ G เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ G-B-D คือ คอร์ด G
นับ A เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ A-C-E คือ คอร์ด Am
นับ B เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ B-D-F คือ คอร์ด Bdim
ก็เป็นอันว่าครบทั้ง 7 คอร์ดของคอร์ 3 เสียงแล้ว (สเกลมี 7 โน้ต ฉันใดฉันนั้น จึงมีคอร์ดแค่ 7 คอร์ด นะโยม)

ต่อไปเรามาดูคอร์ด 4 เสียงกันบ้าง ก็ใช้ตัวเว้นตัวเหมือนกัน
เริ่มจาก C เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ C-E-G-B คือ คอร์ด Cmjor7
นับ D เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ D-F-A-C คือ คอร์ด Dm7
นับ E เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ E-G-B-D คือ คอร์ด Em7
นับ F เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ F-A-C-E คือ คอร์ด Fmajor7
นับ G เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ G-B-D-F คือ คอร์ด G7 (G dominat7)
นับ A เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ A-C-E-G คือ คอร์ด Am7
นับ B เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ B-D-F-A คือ คอร์ด Bm7b5 (บีไมเนอร์เซเว่นแฟลตไฟว์)
ก็เป็นอันว่าครบทั้ง 7 คอร์ดของคอร์ด 4 เสียงแล้ว (สเกลมี 7 โน้ต ฉันใดฉันนั้น จึงมีคอร์ดแค่ 7 คอร์ด นะโยม)
***จำให้ได้นะครับว่า คีย์ซี มีแค่ 7 คอร์ด นี้เท่านั้น ถ้ามีคอร์ดอื่นถือว่าเป็นคอร์ดที่นอกคีย์ครับ เช่นเราเล่น C/Am/Dm/G7
/C/Am/F/Fm/C อย่างนี้ Fm เป็นคอร์ดนอกคีย์ เพราะFm จริงๆแล้วเป็นคอร์ดที่2 Eb Major Scale ลองเปลี่ยนหลายคีย์นะครับเราจะได้รู้ว่าคีย์ไหนมันมีคอร์ดอะไรบ้าง เราจะได้วิเคราะห์ เพลงได้ ว่าช่องนี้มันใช้คีย์อะไร ใช้สเกลอะไรโซโล่

ต่อไปก็มาถึงพระเอกของเราซะที Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด)
หลักการเติมโน๊ตเท็นชั่น ให้คอร์ดมีดังนี้
คอร์ด Add (แอ๊ด) (ไม่ใช่แอ๊ดคาราบาวนะครับ) ใช้คอร์ด 3 เสียง แล้วเพิ่มโน้ตที่เราต้องการเข้าไปเลย แต่ต้องเป็นโน้ตในสเกลนะครับ
ตัวอย่างเช่น Cadd9 (ซีแอดนาย) คอร์ดซี 1-3-5 C-E-G เพิ่มตัวที่9 เข้าไปเป็น 1-3-5-9 C-E-G-D
Dm add9 (ดีไมเนอร์แอ๊ดนาย) คอร์ด Dm 1-3-5 D-F-A เพิ่มตัวที่9 เข้าไปเป็น 1-3-5-9 D-F-A-E

คอร์ด Sus (ซัส) ใช้คอร์ด 3 เสียง แล้วตัดตัวที่ 3 ออก แล้วใส่โน๊ตเท็นชั่นที่เราต้องการเพิ่มเข้าไปแทนโน๊ตที่เราตัดออกได้เลย คอร์ดลักษณะนี้จะไม่บ่งบอกความเป็น ไมเนอร์ หรือเมเจอร์ (ผมเรียกคอร์ดนี้ว่าคอร์ดไม่ระบุสัญชาติ อิอิ..) โน้ตตัว 3 นั้นเป็นตัวบ่งบอก ความเป็น ไมเนอร์ หรือเมเจอร์ ลองดู คอร์ด Am 1-3-5 คือ A-C-E คอร์ด Amjor 1-3-5 คือ A-C#-E เห็นมั๊ยครับ ตัวที่3 ต่างกันแค่ครึ่งเสียง แต่อารมณ์ของคอร์ดก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มาเข้าเรื่องคอร์ด Sus กันต่อ
ตัวอย่างเช่น Csus9 (ซีซัส นาย – ดีนะซัสนายไม่ได้ซัซเรา อิอิ...) คอร์ดซี 1-3-5 C-E-G ตัดตัวที่3 ออก แล้วใส่ตัวที่9 เข้าไปแทนเป็น 1-9-5 C-D-E

การทำคอร์ด 5 เสียงนั้น เป็นไปได้ยากบนกีตาร์ แต่สำหรับเปียนโนแล้วสบายมาก ดังนั้นการจะทำคอร์ด 5 เสียงบนกีตาร์นั้น
เราจำเป็นต้องตัดโน้ตบางตัวออก โดยใช้กลักการดังนี้

1.เล่นคนเดียว ให้ตัดเอาตัว ที่ 5 ออก ได้เลย เพราะตัวที่ 5 มีความสำคัญน้อยที่สุด
ตัวอย่าง Cmajor7 โครงสร้าง 1-3-5-7 1 คือรูท หรือโน้ตตัวแรกของสเกลนั้น 3 คือ ตัวบ่งบอกความเป็นเมเจอร์ หรือ
ไมเนอร์ 5 คือตัวที่ทำให้คอร์ดฟังดูหนักแน่นขึ้น 7 เป็นตัวบ่งบอกความเป็นเมเจอร์ เซเว่น หรือ ดอมิแนนท์เซเว่น
จาก Cmjor7 โครงสร้าง 1-3-5-7 คือ C-E-G-B ผมจะเติมตัวที่ 4 (หรือ 11 มันคือโน้ตเดียวกัน) เข้าไป ผมก็ตัดตัวที่5 ทิ้ง
แล้วใส่ ตัว 11 เข้าไปจะได้ดังนี้ 1-3-11-7 C-E- F-B ก็จะได้คอร์ด Cmajor7 /11 (คอร์ดซีเมเจอร์เซเว่นอิเลฟเวน) ชื่อเหมือนร้านสะดวกซื้อใช้ไหมครับ

2. เล่นกับวง ใช้หลักการ 11 แทน 1ได้เลย หมายถึง เราจะเอาตัวไหนมาเติม ก็ ตัดตัวที่ 1 ทิ้งไปเลย แล้วเอาตัวที่เราต้องการ ใส่แทนเข้าไปเลย ที่ทำได้อย่างนี้ก็เพราะ ว่า โน้ตตัวแรก มือเบส ยังงัยก็ต้องเล่นอยู่แล้วครับ
ตัวอย่าง Cmjor7 โครงสร้าง 1-3-5-7 คือ C-E-G-B ผมจะเติมตัวที่ 4 (หรือ 11 มันคือโน้ตเดียวกัน) เข้าไป ผมก็ตัดตัวที่1 ทิ้ง ไปเลย แล้วเติมตัว 11 เข้าไป จะได้ 11-3-5-7 คือ F-E-G-B ลองสังเกตดูดีๆ มันจะกลายเป็นคอร์ดใหม่แล้วใช้มั๊ยครับ อันนี้จะถือว่าเป็นหลักการแทนคอร์ด ในดนตรี Jazz อีกแบบนึงครับ จริงๆแล้วมันคือคอร์ด Fsus2 7b5 (เอฟซัสทูเซเว่นแฟลตไฟว์)

เอาเป็นตอนนี้อย่าเพิ่งไปสนใจกับชื่อของคอร์ดเลยละกัน ขอให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริงแค่นี้ก็พอแล้ว ครับ
พิมพ์มาเยอะแล้วเริ่มมึนเหมือนกัน ผมเองก็ต้องมานั่งปัดฝุ่นใหม่ ลื้อฝื้นวิชามารของผมเหมือนกันครับ ไม่ได้ใช้นานๆ มันไม่ลืมนะ แต่เกือบลืม แล้วคราวหน้าผมมีวิธีการเล่นกีตาร์สองคนแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อน หรือมีก็น้อยมาก เพราะว่ามันค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร แต่รับรองว่า Sound Good สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ ขอให้สนุกกับการศึกษาดนตรีนะครับ ค่อยเป็นค่อยไปครับ ดนตรีไม่มีเรียนลัด ต้องก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นอย่างมั่นใจครับ โชคดี.....


ปล....ลองหาแทปเพลงที่ตั้งสายแปลก มาลองเล่นตามไปก่อนก้ได้ครับ แต่ เล่นแล้วต้อง คิดตามให้ได้ ว่าเค้าจูนสายเป็นเสียงของคอร์ดอะไร ลองฝึกสังเกตุแล้ววิเคราะห์ตามนะครับ จะเป็นประโยชน์มากกว่า เล่นตามอย่างเดียวโดยที่ไม่คิดอะไรเลยครับ

 ในโลกนี้ไม่มีอะไรยาก  มีแค่ รู้ กับไม่รู้   และ ในโลกนี้ ก้ไม่มีคนเล่นกีตาร์เก่ง มีแต่คนที่ซ้อมน้อย กับซ้อมมาก ครับ 


ปล...ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะผมก็ไม่เคยเรียนทฤษฏี ดนตรีที่ไหนมา อาศัย อ่าน และ ดู จาก อินเตอร์เนทครับ

-------อย่าลืมนะครับ  จินตนาการ นั้น สำคัญที่สุด----------------

natthaphon saeng

  • member
  • ***
  • กระทู้: 105
  • อยากก็เล่น เบื่อก็เลิก
พอจะเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าต้องกรึ๊บ พอกรึ่มๆก่อน..ใช้ไหม๊ครับอาจารย์ ;D

OAT JAKKRIT

  • member
  • ***
  • กระทู้: 630
  • เพศ: ชาย
  • สูงสุดสู่สามัญ

Kai Acoustic™

  • member
  • ***
  • กระทู้: 704
  • เพศ: ชาย
เสนอให้ปักหมุดกระทู้นี้ครับ..ความรู้จากน้าที่มีประสบการณ์ทั้งนั้นเลยครับ.... :o :o :o :o :o

Kwang @ Uttaradit

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,470
  • Kwang @ Uttaradit

     ขอขอบคุณ อีกครั้ง กับ ท่านอาจารย์ sontaya,  ท่านอาจารย์ Anat, และท่านอาจารย์ FOTOBEER 

     ที่กรุณาสละเวลา นำเนื้อหา สาระ ที่มีคุณค่า  ที่มีประโยชน์  (หนัก มั่ก .. มาก ..  สำหรับผม คนเดียว นะ)  มาฝาก น้า ๆ ทุก ๆ คน ที่สนใจ

     อย่างไรก็ตาม  ก็รู้สึก  ตื่นตา ตื่นใจ  กับความรู้ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน  และจะตั้งใจ เป็นนักเรียนที่ดี หมั่นฝึกฝนทักษะ ตามคำสั่งสอน สม่ำเสมอ

     และยังเฝ้ารอ เนื้อหาใหม่ ๆ เพิ่มเติม  จากน้า ๆ ท่านอื่น ๆ  รวมทั้งท่านอาจาย์ใหญ่  น้า เดอะตู่  ทู๊กกกก...  วัน  ครับ
Finger Picking Style

punning

  • member
  • ***
  • กระทู้: 333
เวลาเราเล่นสายเปิดแบบนี้ เสียงร้องเราต้อง ต่ำๆตามด้วยไหมครับ แบบน้าธีร์ ไชยเดช

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
เอาของเก่ามาเล่าใหม่ละกันครับ น้าสนอุตส่าชวนมา.......อิอิ  รอพี่เดอะตู่ไปพลางๆ ก่อนละกัน เผื่อสมาชิกใหม่ยังไม่ได้ดูครับ

การจูนสายของผม ผมจะจูนออกมาแล้วดีดเสียงเป็นคอร์ดนั้นเลย  เราชอบเสียงของคอร์ดอะไร เราก็เอาโน๊ตในคอร์ด จับมายัดใส่ในสายเปิดเลย สลับกันไปมา  ดีดแล้ว มันก็ยังคงเป็น เสียงโดยรวมของคอร์ดนั้นอยู่ครับ
Talk C#m7add9


เพลงที่ผมแต่งเอง
Tuning C#m7add9 (Demo)


ส่วนอันนี้ผมก็ลองจูนเป็นเสียงของคอร์ด Dm7add11add9

test DAFGCE 6-1 Tuning


สายสายบนจะเป็นเสียงของคอร์ด Dm  ไล่มาจากสาย 6 คือ D  สาย5คือ A   สาย6 คือ F  ส่วน 3 สายล่างจะเป็นโน๊ตเสริม คือโน๊ต เท็นชั่นทั้งหมด สาย3 คือ G  เป็นตัวที่11 ของสเกล Dm   สาย 2 คือ C เป็น ตัวที่7 ของสเกล Dm หรือ ตัว ไมเน่อร์7 ส่วนสาย1 คือ E เป็นตัวที่ 9 ของสเกล Dm
ลองดูในเรื่อง เท็นชั่นคอร์ดที่ผมเคยทำไว้แล้วตามนี้ ของ ก็อปปี้มาวางเลยนะครับ

มาไขความลับของ Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) กันดีกว่าครับ

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำเรื่อง Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) ก่อนอื่นผมต้องขอบอกนะครับว่าโดยส่วนตัวแล้วผมเล่นไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยได้ฝึกภาคปฏิบัติซักเท่าไหร่ แต่พอจะมีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎี ดนตรี อยู่บ้างเล็กน้อย ก็เลยอยากจะมาบอกต่อกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ บางท่านที่ยังไม่รู้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

Chord (คอร์ด) คือ เสียงของโน้ต ที่รวมตัวกันตั้งแต่ 3 เสียงขึ้นไป มีทั้งคอร์ด 3 เสียง / 4เสียง / 5เสียง และ อื่นๆ อีกมากมาย
Tension (เท็นชั่น) แปลว่า ความตึงเครียด
Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) แปลว่าคอร์ดที่มีความตึงเครียด
Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) มีอยู่ในดนตรีทุกประเภท แต่ที่ใช้กันแบบไม่ประหยัดเลย ก็ในดนตรี Jazz นี่ใช้เยอะมาก มีทั้งโน๊ตเท็นชั่น ที่อยู่ในคีย์ และเท็นชั่นที่อยู่นอกคีย์ วันนี้ผมจะพูดถึง โน๊ตเท็นชั่นในคีย์อย่างเดียวก่อนนะครับ
ก่อนจะไปเรื่อง Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด) ผมจะพูดถึงที่มาที่ไปของคอร์ดก่อนละกันครับจะได้ไม่งง!!!!

ขอยกตัวอย่างจาก Scale Cmajor มันจะเข้าใจง่ายที่สุดแล้ว (เราควรจะรู้โน้ตบนคอกีตาร์ให้หมดก่อน หาได้จากกูเกิ้ลครับมีเยอะแยะมากมาย)
Scale Cmajor ประกอบไปด้วยโน้ต C D EF G A BC
C กับ D ห่างกัน 1ช่องบนคอกีตาร์ /D กับ E ห่างกัน 1ช่องบนคอกีตาร์
E กับ F ช่องจะติดกัน บนคอกีตาร์ /F กับ G ห่างกัน 1 ช่องบนคอกีตาร์
G กับ A ห่างกัน 1 ช่อง บนคอกีตาร์ /A กับ B ห่างกัน 1 ช่องบนคอกีตาร์
B กับ C ช่องจะติดกันบนคอกีตาร์ พอจะเข้าใจไหมครับ ลองค่อยทำความเข้าใจไปทีละขั้นตอนนะครับ ไม่เข้าใจตรงไหนอ่านตรงนั้นให้เข้าใจก่อน ถ้าอ่านทีเดียวหมดมันจะเข้าใจยากครับ ค่อยทำความเข้าใจไปทีละขั้นนะครับ
****อันนี้สำคัญมาก ว่าโน้ตตัวไหน เป็นลำดับที่เท่าไหร่ ของสเกลไหน มันจะส่งผลกับหลายๆอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตเท็นชั่นที่ผมกำลังจะกล่าวถึง หรือเรื่องของโมด เรื่องอาร์เพ็กจิโอ้ และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย มันจะอ้างอิงมาที่ตรงนี้หมดละครับ ตอนนี้ขอแค่ให้จำตรงนี้ให้ขึ้นใจก่อน เอาแค่ว่าโน้ตตัวไหน เป็นลำดับที่เท่าไหร่ ของสเกล C
C เป็นโน้ตตัวที่ 1 ของ Cmajor Scale
D เป็นโน้ตตัวที่ 2 ของ Cmajor Scale
E เป็นโน้ตตัวที่ 3 ของ Cmajor Scale
F เป็นโน้ตตัวที่ 4 ของ Cmajor Scale
G เป็นโน้ตตัวที่ 5 ของ Cmajor Scale
A เป็นโน้ตตัวที่ 6 ของ Cmajor Scale
B เป็นโน้ตตัวที่ 7 ของ Cmajor Scale
C เป็นโน้ตตัวที่ 8 หรือตัวที่1 นั่นเองของ Cmajor Scale (วนกลับมาเป็น Octave (อ็อคเท็ฟ) ต่อไป)
*****ข้อสังเกตุ BC ติดกัน / EF ก็ติดกัน ******
Octave (อ็อคเท็ฟ) คือ โน้ตเดียวกัน แต่เสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน
ตัวอย่าง
จาก Note E สายเปล่าที่สาย 6 ข้ามไปถึง Note E ที่สาย6 ช่อง12 นี่คือ 1 Octave
จาก Note E สายเปล่าที่สาย 6 ข้ามไปถึง Note E ที่สาย2 ช่อง5 นี่คือ 2 Octave
จาก Note E สายเปล่าที่สาย 6 ข้ามไปถึง Note E ที่สาย1 ช่อง12 นี่คือ 3 Octave

คอร์ด 3 เสียง (Triad Chord) คือนำโน้ตในสเกล ตัว เว้น ตัว ก็จะได้ดังนี้
คอร์ด 3 เสียงทั้งหมดใน สเกล C Major จะได้ดังนี้
เริ่มจาก C เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ C-E-G คือ คอร์ด C
นับ D เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ D-F-A คือ คอร์ด Dm
นับ E เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ E-G-B คือ คอร์ด Em
นับ F เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ F-A-C คือ คอร์ด F
นับ G เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ G-B-D คือ คอร์ด G
นับ A เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ A-C-E คือ คอร์ด Am
นับ B เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ B-D-F คือ คอร์ด Bdim
ก็เป็นอันว่าครบทั้ง 7 คอร์ดของคอร์ 3 เสียงแล้ว (สเกลมี 7 โน้ต ฉันใดฉันนั้น จึงมีคอร์ดแค่ 7 คอร์ด นะโยม)

ต่อไปเรามาดูคอร์ด 4 เสียงกันบ้าง ก็ใช้ตัวเว้นตัวเหมือนกัน
เริ่มจาก C เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ C-E-G-B คือ คอร์ด Cmjor7
นับ D เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ D-F-A-C คือ คอร์ด Dm7
นับ E เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ E-G-B-D คือ คอร์ด Em7
นับ F เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5-7 คือ F-A-C-E คือ คอร์ด Fmajor7
นับ G เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ G-B-D-F คือ คอร์ด G7 (G dominat7)
นับ A เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ A-C-E-G คือ คอร์ด Am7
นับ B เป็นตัวที่1 นับตัวเว้นตัว ก็จะได้ดังนี้ 1-3-5 คือ B-D-F-A คือ คอร์ด Bm7b5 (บีไมเนอร์เซเว่นแฟลตไฟว์)
ก็เป็นอันว่าครบทั้ง 7 คอร์ดของคอร์ด 4 เสียงแล้ว (สเกลมี 7 โน้ต ฉันใดฉันนั้น จึงมีคอร์ดแค่ 7 คอร์ด นะโยม)
***จำให้ได้นะครับว่า คีย์ซี มีแค่ 7 คอร์ด นี้เท่านั้น ถ้ามีคอร์ดอื่นถือว่าเป็นคอร์ดที่นอกคีย์ครับ เช่นเราเล่น C/Am/Dm/G7
/C/Am/F/Fm/C อย่างนี้ Fm เป็นคอร์ดนอกคีย์ เพราะFm จริงๆแล้วเป็นคอร์ดที่2 Eb Major Scale ลองเปลี่ยนหลายคีย์นะครับเราจะได้รู้ว่าคีย์ไหนมันมีคอร์ดอะไรบ้าง เราจะได้วิเคราะห์ เพลงได้ ว่าช่องนี้มันใช้คีย์อะไร ใช้สเกลอะไรโซโล่

ต่อไปก็มาถึงพระเอกของเราซะที Tension Chord (เท็นชั่น คอร์ด)
หลักการเติมโน๊ตเท็นชั่น ให้คอร์ดมีดังนี้
คอร์ด Add (แอ๊ด) (ไม่ใช่แอ๊ดคาราบาวนะครับ) ใช้คอร์ด 3 เสียง แล้วเพิ่มโน้ตที่เราต้องการเข้าไปเลย แต่ต้องเป็นโน้ตในสเกลนะครับ
ตัวอย่างเช่น Cadd9 (ซีแอดนาย) คอร์ดซี 1-3-5 C-E-G เพิ่มตัวที่9 เข้าไปเป็น 1-3-5-9 C-E-G-D
Dm add9 (ดีไมเนอร์แอ๊ดนาย) คอร์ด Dm 1-3-5 D-F-A เพิ่มตัวที่9 เข้าไปเป็น 1-3-5-9 D-F-A-E

คอร์ด Sus (ซัส) ใช้คอร์ด 3 เสียง แล้วตัดตัวที่ 3 ออก แล้วใส่โน๊ตเท็นชั่นที่เราต้องการเพิ่มเข้าไปแทนโน๊ตที่เราตัดออกได้เลย คอร์ดลักษณะนี้จะไม่บ่งบอกความเป็น ไมเนอร์ หรือเมเจอร์ (ผมเรียกคอร์ดนี้ว่าคอร์ดไม่ระบุสัญชาติ อิอิ..) โน้ตตัว 3 นั้นเป็นตัวบ่งบอก ความเป็น ไมเนอร์ หรือเมเจอร์ ลองดู คอร์ด Am 1-3-5 คือ A-C-E คอร์ด Amjor 1-3-5 คือ A-C#-E เห็นมั๊ยครับ ตัวที่3 ต่างกันแค่ครึ่งเสียง แต่อารมณ์ของคอร์ดก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มาเข้าเรื่องคอร์ด Sus กันต่อ
ตัวอย่างเช่น Csus9 (ซีซัส นาย – ดีนะซัสนายไม่ได้ซัซเรา อิอิ...) คอร์ดซี 1-3-5 C-E-G ตัดตัวที่3 ออก แล้วใส่ตัวที่9 เข้าไปแทนเป็น 1-9-5 C-D-E

การทำคอร์ด 5 เสียงนั้น เป็นไปได้ยากบนกีตาร์ แต่สำหรับเปียนโนแล้วสบายมาก ดังนั้นการจะทำคอร์ด 5 เสียงบนกีตาร์นั้น
เราจำเป็นต้องตัดโน้ตบางตัวออก โดยใช้กลักการดังนี้

1.เล่นคนเดียว ให้ตัดเอาตัว ที่ 5 ออก ได้เลย เพราะตัวที่ 5 มีความสำคัญน้อยที่สุด
ตัวอย่าง Cmajor7 โครงสร้าง 1-3-5-7 1 คือรูท หรือโน้ตตัวแรกของสเกลนั้น 3 คือ ตัวบ่งบอกความเป็นเมเจอร์ หรือ
ไมเนอร์ 5 คือตัวที่ทำให้คอร์ดฟังดูหนักแน่นขึ้น 7 เป็นตัวบ่งบอกความเป็นเมเจอร์ เซเว่น หรือ ดอมิแนนท์เซเว่น
จาก Cmjor7 โครงสร้าง 1-3-5-7 คือ C-E-G-B ผมจะเติมตัวที่ 4 (หรือ 11 มันคือโน้ตเดียวกัน) เข้าไป ผมก็ตัดตัวที่5 ทิ้ง
แล้วใส่ ตัว 11 เข้าไปจะได้ดังนี้ 1-3-11-7 C-E- F-B ก็จะได้คอร์ด Cmajor7 /11 (คอร์ดซีเมเจอร์เซเว่นอิเลฟเวน) ชื่อเหมือนร้านสะดวกซื้อใช้ไหมครับ

2. เล่นกับวง ใช้หลักการ 11 แทน 1ได้เลย หมายถึง เราจะเอาตัวไหนมาเติม ก็ ตัดตัวที่ 1 ทิ้งไปเลย แล้วเอาตัวที่เราต้องการ ใส่แทนเข้าไปเลย ที่ทำได้อย่างนี้ก็เพราะ ว่า โน้ตตัวแรก มือเบส ยังงัยก็ต้องเล่นอยู่แล้วครับ
ตัวอย่าง Cmjor7 โครงสร้าง 1-3-5-7 คือ C-E-G-B ผมจะเติมตัวที่ 4 (หรือ 11 มันคือโน้ตเดียวกัน) เข้าไป ผมก็ตัดตัวที่1 ทิ้ง ไปเลย แล้วเติมตัว 11 เข้าไป จะได้ 11-3-5-7 คือ F-E-G-B ลองสังเกตดูดีๆ มันจะกลายเป็นคอร์ดใหม่แล้วใช้มั๊ยครับ อันนี้จะถือว่าเป็นหลักการแทนคอร์ด ในดนตรี Jazz อีกแบบนึงครับ จริงๆแล้วมันคือคอร์ด Fsus2 7b5 (เอฟซัสทูเซเว่นแฟลตไฟว์)

เอาเป็นตอนนี้อย่าเพิ่งไปสนใจกับชื่อของคอร์ดเลยละกัน ขอให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริงแค่นี้ก็พอแล้ว ครับ
พิมพ์มาเยอะแล้วเริ่มมึนเหมือนกัน ผมเองก็ต้องมานั่งปัดฝุ่นใหม่ ลื้อฝื้นวิชามารของผมเหมือนกันครับ ไม่ได้ใช้นานๆ มันไม่ลืมนะ แต่เกือบลืม แล้วคราวหน้าผมมีวิธีการเล่นกีตาร์สองคนแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อน หรือมีก็น้อยมาก เพราะว่ามันค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร แต่รับรองว่า Sound Good สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ ขอให้สนุกกับการศึกษาดนตรีนะครับ ค่อยเป็นค่อยไปครับ ดนตรีไม่มีเรียนลัด ต้องก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นอย่างมั่นใจครับ โชคดี.....


ปล....ลองหาแทปเพลงที่ตั้งสายแปลก มาลองเล่นตามไปก่อนก้ได้ครับ แต่ เล่นแล้วต้อง คิดตามให้ได้ ว่าเค้าจูนสายเป็นเสียงของคอร์ดอะไร ลองฝึกสังเกตุแล้ววิเคราะห์ตามนะครับ จะเป็นประโยชน์มากกว่า เล่นตามอย่างเดียวโดยที่ไม่คิดอะไรเลยครับ

 ในโลกนี้ไม่มีอะไรยาก  มีแค่ รู้ กับไม่รู้   และ ในโลกนี้ ก้ไม่มีคนเล่นกีตาร์เก่ง มีแต่คนที่ซ้อมน้อย กับซ้อมมาก ครับ 


ปล...ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะผมก็ไม่เคยเรียนทฤษฏี ดนตรีที่ไหนมา อาศัย อ่าน และ ดู จาก อินเตอร์เนทครับ

-------อย่าลืมนะครับ  จินตนาการ นั้น สำคัญที่สุด----------------

เยี่ยมเลยครับท่าน อาจารย์ เบียร์  ที่ได้ สอนมา
ผมก็มีความเห็น เหมือนกับท่าน อ เบียร์ ตรงคำว่า  จินตนาการ นั้น สำคัญที่สุดจริงๆ เลย ครับ

การเรียบเรียงเพลงนั้น ก็เหมือน กับ การ แต่งนิยาย หรือ เขียนบทความต่างๆ  พอเรารู้ จักคำและการผสมคำแล้ว แต่จะแต่งอย่างไรให้คนอ่านแล้วติดจะใช้คำอย่างไรให้มันดูมีเสนห์  จะเรียบเรียงเพลงได้อย่างไรให้ มี คอรท์ต่างๆ ให้ไหลลื่นได้  ตลอดจนการเว้น วรรค ของคำ  นั่นก็คือ จะใส่ จังหวะอะไรแพทเทิรน์การเกาตอนไหน  ให้กระชีบตอนไหน ตอนไหน ใส่ อะไรดี จะใส่ลูกเล่นอะไรเข้า ไปในคอรท์ ซึ่งจินตนาการนั้นหาไม่ได้ง่ายๆ นอกจากต้องฟังเพลงมากๆเข้าไว้ แล้ว ตอดอย่างล๊ะนิดล๊ะหน่อย ของ ลูกเล่นต่างๆ  แล้ว ก็สร้างจินตนาการขึ้นมาเอง ใหม่
ซึ่งผมว่า การเรียบเรียงเพลง นั้น ต้องใช้จินตนาการที่ หลากหลายจริงๆ 
แต่ทุกวันนี้ ผมเห็นมีโปรแกรมดนตรีต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ผมว่า มันช่วยให้เรา เรียบเรียงเพลงได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมานั่งไล่สายกีต้าร์ให้เหนื่อย ป้อนตัวโน๊ตลงไปแล้วกำหนดจังหวะ ใส่ลูกเล่นแล้วให้มัน เล่นพอเป็นไอเดียให้ฟังได้อีก
พอสำเร๊จ ก็ ลอง เอามาเล่นกับกีต้าร์จริงๆดู 

แต่ยังไง เรื่องของ การเรียบเรียงเพลง ผมว่า ถ้าจินตนาการไม่มีล๊ะ ยังไงไปไม่เป็นแน่ๆ 
ได้ความรู้ดีๆ จาก หลายๆท่าน ขอบคุณครับ
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

Anat

  • บุคคลทั่วไป
ว้าววววว...น้าเบียร์  สวดยวด จริงๆ 
เวลาเราเล่นสายเปิด เราก็มั่วๆไปเรื่อยล่ะครับ  เล่นคนเดียว  ไม่ได้ยุ่งกับใคร  เสียงมันนัวเนียดี เพลิน
ให้กลับมาเล่นอีกรอบก็เล่นไม่ได้  ลืมไปแระว่าเมื่อตะกี๊เล่นอะไร

น้า Oat ครับ   เล่นไปเรื่อย  เดี๋ยวจะเจอเสียง"ของเรา"เอง
เผอิญไม่ได้มีกีต้าร์  การวางฟอร์มของนิ้วสำหรับ Slack key Open G
เค้าจะเล่นสาย 1 กับ สาย 3 คู่กันไป 
สาย 3 ใช้นิ้วชี้   สาย 1 ใช้นิ้วนาง 
เสียง G ใช้  สาย 3 เฟรท 4 ...... สาย 1 เฟรท 5
ที่หลือลองไล่ๆไปครับ  เอาไว้เราลองทดสายแล้วจะจดมาให้ครับ

น้องโอ  เฮียเลือกฮาวายเพราะกะไปเรียนกีต้าร์เลยแท้ๆ + บรรยากาศสบายๆ
ไม่ชอบเมนแลนด์อย่างที่เอ็งไปอยู่วุ้ย   อยากไปเป็นชาวเกาะ มากกว่า..งิ..งิ

Anat

  • บุคคลทั่วไป
ไปลองไล่มาให้แระ
สาย 3..สาย 1.........................ใช้นิ้วชี้กดสาย 3  นิ้วนางกดสาย 1
ไล่ขึ้นไป.....เฟรท 4/5....5/7....7/9....9/10....11/12....12/14....14/16....16/17
คราวนี้ไล่ลง.....เฟรท 4/5....2/4....0/2....0/0
ลองไล่ขึ้น-ไล่ลง ให้คล่อง   
สังเกตดู  บางทีก็แหกนิ้ว 2 เฟรท   บางทีก็แหกนิ้วแค่ เฟรทเดียว

ส่วนมือขวาเหมือนเดิม  อย่าหยุด..ดีดไปเรื่อยๆ   ดีดเบสสลับกับสายบนที่ว่านี่แหละครับ

Kwang @ Uttaradit

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,470
  • Kwang @ Uttaradit
ไปลองไล่มาให้แระ
สาย 3..สาย 1.........................ใช้นิ้วชี้กดสาย 3  นิ้วนางกดสาย 1
ไล่ขึ้นไป.....เฟรท 4/5....5/7....7/9....9/10....11/12....12/14....14/16....16/17
คราวนี้ไล่ลง.....เฟรท 4/5....2/4....0/2....0/0
ลองไล่ขึ้น-ไล่ลง ให้คล่อง   
สังเกตดู  บางทีก็แหกนิ้ว 2 เฟรท   บางทีก็แหกนิ้วแค่ เฟรทเดียว

ส่วนมือขวาเหมือนเดิม  อย่าหยุด..ดีดไปเรื่อยๆ   ดีดเบสสลับกับสายบนที่ว่านี่แหละครับ

     อ่านตาม เล่นตาม แล้ว  ก็ยัง งง  งง  ....   

     อาจารย์ Anat ครับ  ช่วยให้นักศึกษาสาว สวย ๆ ถ่ายคลิป หัวข้อนี้ แระ..  ลง YouTube ให้หน่อยครับ
Finger Picking Style

Anat

  • บุคคลทั่วไป
น้ากวางครับ  มันเป็นคู่โน้ตที่ใช้บ่อยในการเล่น Open G ครับ
น้ากวาง วางนิ้วมือซ้าย  อย่างที่เราว่า
นิ้วชี้สาย 3    นิ้วนางสาย 1    แล้วรูดไปมาตามเฟรทที่เราว่า  ไม่ต้องเปลี่ยนรูปนิ้วมือซ้ายนะครับ  คงมันไว้อย่างงั้นแหละ

ส่วนมือขวา ดีดไปตามปกติครับ  ถ้าต้องการดีดสายให้พร้อมกัน  ให้ใช้นิ้วชี้ขวาดีดสาย3 นิ้วนางขวาดีดสาย1 ครับ