Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนถาม Martin & Blueridge  (อ่าน 12765 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pooslash

  • member
  • ***
  • กระทู้: 369
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2012, 15:18:29 »
กลิ่นมาจากในโพรงกีต้าร์นะครับ  ผมว่าเป็นกลิ่นไม้ Rose Wood  นะครับ ในโพรงกีต้าร์ มันเคลือบด้วยหรอครับ   

MATALO

  • member
  • ***
  • กระทู้: 9
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2012, 22:39:00 »
ผมมี MARTIN D42 , D45V
       Blueridge 183
ถ้าเอาจริงๆ สำหรับงบขนาดนั้น ยังงัยผมจะเลือก Martin ครับ เพราะว่าผมยึดติดกับยี่ห้อ...
เรื่องเสียงคิดว่าถ้าได้เล่นบ่อยๆ +สายมีคุณภาพ เดี๋ยวก็ถูกใจเอง  ;D
ยินดีต้อนรับนะครับ
สำหรับมาร์ตินแล้ว พวกตระกูล 4 เช่น D-42, D-45V นี่น่าเล่นมากๆ ครับ

ขอบคุณมากครับ เพิ่งตอบกระทู้นี้ครั้งแรกเลยละครับ แต่ก่อนเล่น hd28v เล่นไม่ค่อนถนัดรูปคอ
จะโค้งมากกว่า เมื่อยมือมากเลยครับ

MATALO

  • member
  • ***
  • กระทู้: 9
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2012, 23:10:00 »
ผมมี MARTIN D42 , D45V
       Blueridge 183
ถ้าเอาจริงๆ สำหรับงบขนาดนั้น ยังงัยผมจะเลือก Martin ครับ เพราะว่าผมยึดติดกับยี่ห้อ...
เรื่องเสียงคิดว่าถ้าได้เล่นบ่อยๆ +สายมีคุณภาพ เดี๋ยวก็ถูกใจเอง  ;D

อยากชม D-45V เป็นขวัญตาครับ ช่วยนำมาโชว์ได้รึเปล่าครับ เป็นที่สุดที่ผมใฝ่ฝันเลย

รูป MARTIN D45V ครับ บาลานส์เสียงไม่แกว่ง เวลาเล่นแรงๆเลย นุ่มอุ่นมากครับชอบเกือบที่สุดเลย 55



Uploaded with ImageShack.us



Uploaded with ImageShack.us

pomguitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,303
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 00:08:44 »
ยินดีกับน้า MATALO สำหรับ Martin D45-V
สำหรับการเล่นแบบ strumming หรือตีคอร์ดนั้น มันเหมาะมากๆสำหรับ Martin ทรง Dreadnought
เพราะมันออกแบบมาเพื่อการเล่นในสไตล์นี้เลยครับ น้าลองฟัง Neil Young เจ้าพ่อแห่งการเล่นแบบ Strumming สิ
เวลา Neil Young ตีคอร์ด จังหวะทั้งเบา และหนัก ผมว่าเราจะเห็นอะไรๆเด็ดๆ จาก Martin ทรง Dreadnought เยอะเลย

ขออภัยเจ้าของกระทู้ ที่ผมออกนอกเรื่องคำถาม ไปสักนิดหนึ่ง

ส่วนทีเจ้าของกระทู้ถามระหว่าง Martin กับ Blueridge
ตอบแบบง่ายๆ ว่า ถ้างบในระดับไม่เกิน 60,000 บวกลบ นะครับ
ผมยังคิดว่า ซื้อ Blueridge ได้เหนือกว่าทั้ง spec และ คุณภาพของเสียง ครับ
แต่ทั้งหมด อยู่ที่ท่านครับ ท่านลองแล้วชอบอะไรมากทีสุด ก็ขอให้ท่านซื้อแบบนั้น
อยากให้ซื้อกีต้าร์ที่เราชอบ มากกว่า....การซื้อกีต้าร์ เพราะว่าคนอื่นชอบ

icevevei

  • member
  • ***
  • กระทู้: 16
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 01:31:33 »
ยินดีกับน้า MATALO สำหรับ Martin D45-V
สำหรับการเล่นแบบ strumming หรือตีคอร์ดนั้น มันเหมาะมากๆสำหรับ Martin ทรง Dreadnought
เพราะมันออกแบบมาเพื่อการเล่นในสไตล์นี้เลยครับ น้าลองฟัง Neil Young เจ้าพ่อแห่งการเล่นแบบ Strumming สิ
เวลา Neil Young ตีคอร์ด จังหวะทั้งเบา และหนัก ผมว่าเราจะเห็นอะไรๆเด็ดๆ จาก Martin ทรง Dreadnought เยอะเลย

ขออภัยเจ้าของกระทู้ ที่ผมออกนอกเรื่องคำถาม ไปสักนิดหนึ่ง

ส่วนทีเจ้าของกระทู้ถามระหว่าง Martin กับ Blueridge
ตอบแบบง่ายๆ ว่า ถ้างบในระดับไม่เกิน 60,000 บวกลบ นะครับ
ผมยังคิดว่า ซื้อ Blueridge ได้เหนือกว่าทั้ง spec และ คุณภาพของเสียง ครับ
แต่ทั้งหมด อยู่ที่ท่านครับ ท่านลองแล้วชอบอะไรมากทีสุด ก็ขอให้ท่านซื้อแบบนั้น
อยากให้ซื้อกีต้าร์ที่เราชอบ มากกว่า....การซื้อกีต้าร์ เพราะว่าคนอื่นชอบ

ไม่เป็นไรครับไม่นอกประเด็นหรอกครับ ได้รับความรู้ดีครับ

อาจารย์ผมบอกว่า martin นี้ต้องสัก 70000 ขึ้นถึงคลังหรอครับ

Ods16339

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,450
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 23:02:43 »
ลองหากีตาร์ที่เคลือบเงาแบบnitro cellulose
มาดมดูครับ   หลายๆยี่ห้อก็มีกลิ่นแบบmartin
(ความเห็นส่วนตัวครับ)

yo51

  • member
  • ***
  • กระทู้: 128
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 00:30:09 »
   งบ 5-6 หมื่น หามาร์ตินไปเลยครับ...ไม่เถียงนะว่า บูริด เสียงดี-ดัง ผมมี 160 อยู่ตัว เฟรทสูงเจ็บมือ งานไม่เรียบร้อยเลย ผมลองไม่ผ่อนสาย เล่นแล้วเก็บลงกล่องอยู่อย่างนี้ซักเดือนนึง  ไม้หลังบริดป่องขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ผมผ่อนสายทิ้งไว้ 1 วันกลับเป็นปกติ แสดงว่าไม้หน้า-โครงสร้าง น่าจะบาง...
   มาร์ติน ผมมีตัวถูกๆ D 15 M เสียงเบากว่าแต่รายละเอียดเสียง ส่วนตัวนะผมว่าดีกว่าบูริด เล่นแล้วไม่เบื่อ

      ที่สำคัญ เวลาจะขายต่อ มาร์ตินคงซื้อง่ายขายคล่องกว่า......มาร์ตินหากมันไม่แน่จริงคงไม่ยืนหยัดอยู่ได้จนบัดนี้หรอก

      ข้อเสียของมาร์ตินที่เห้นชัดเลยผมว่าคงเป็นราคาที่เวอร์ไปหน่อย.

pooslash

  • member
  • ***
  • กระทู้: 369
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 03:07:00 »
มาตินของผม ก็ป่องครับ เมืองไทยอากาศมันชื้น ต้องซื้อ เซลิก้ามาใส่ในโพรงกีต้าร์ ซึ่งมันจะมีอายุประมาณ 3-4 เดือน พึ่งจะหมดอายุ ท้องมาตินเริ่มป่อง  ผมก็เอาไปเข้าไมโครเวฟ แล้วเอามาใช้อีก  ตอนนี้มาตินผมหายป่องแล้วครับ   ผมว่าไปซื้อเซลิก้ามาใส่ดีกว่าครับ น่าจะแก้ปัญหาได้  Blueridge ฺBr-160  โครงสร้า่งมันเลียนแบบมาตินมา โดยจะทำ Forward Shifted โครงสร้างแบบนี้จะทำให้ไม้หน้าสั่นได้ดี แต่ข้อเสียคือ มันจะไม่ค่อยแข็งแรง   แล้วมาเจออากาศชื้น ท้องป่องทุกตัวครับ 

OLARN

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,104
  • เพศ: ชาย
    • OLARN2000
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 04:17:54 »
มาตินของผม ก็ป่องครับ เมืองไทยอากาศมันชื้น ต้องซื้อ เซลิก้ามาใส่ในโพรงกีต้าร์ ซึ่งมันจะมีอายุประมาณ 3-4 เดือน พึ่งจะหมดอายุ ท้องมาตินเริ่มป่อง  ผมก็เอาไปเข้าไมโครเวฟ แล้วเอามาใช้อีก  ตอนนี้มาตินผมหายป่องแล้วครับ   ผมว่าไปซื้อเซลิก้ามาใส่ดีกว่าครับ น่าจะแก้ปัญหาได้  Blueridge ฺBr-160  โครงสร้า่งมันเลียนแบบมาตินมา โดยจะทำ Forward Shifted โครงสร้างแบบนี้จะทำให้ไม้หน้าสั่นได้ดี แต่ข้อเสียคือ มันจะไม่ค่อยแข็งแรง   แล้วมาเจออากาศชื้น ท้องป่องทุกตัวครับ 
martin ของผมก็ป่องเหมือนกันครับ ;D

NATTA19

  • member
  • ***
  • กระทู้: 175
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 08:55:36 »
BLUERIDGE MARTIN เจออากาศบ้านเรา มีโอกาศป่องได้อยู่แล้วครับ ;D 

yo51

  • member
  • ***
  • กระทู้: 128
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 09:01:11 »
  มาร์ตินผมก้อป่อง มือลูบดูรู้สึกได้เลย....เดี๋ยวจะลองผ่อนสายดู หากหายป่องก้อเป็นที่ไม้ หากไม่หายแสดงว่าเป็นที่ความชื้น

  อันนี้เล่าสู่กันฟัง ผมมี ยามาฮา ไต้หวัน FG335 ทูว์ เก่าๆอยู่ตัวใส่สาย เบอร์12 ไว้เดือนกว่าๆ ตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ไม่มีเคส เอามาดู

 ท้องเรียบกริ๊บ ลูบดูก้อไม่ป่อง....

pooslash

  • member
  • ***
  • กระทู้: 369
Re: รบกวนถาม Martin & Blueridge
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 15:27:01 »
ไม่ต้องผ่อนสายหรอกครับ  ถ้ากีต้าร์คุณไม่มีที่ดูดความชื้น ไปซื้อมาเลยครับ  ต้องใส่นะครับ ผมว่าหลายคนไม่รู้เรื่องนี้  ซื้อได้ที่
Home Pro ไม่แพงครับ เป็นซองเล็กๆ เขาจะบอกว่าสำหรับใส่ในอาหาร   เอามาใส่ในโพรงกีต้าร์  ปิดกล่องไว้ 1 วัน รับรองหายแน่ๆ  สามเดือนก็เปลี่ยนที ส่วน Yamaha เนื่องจากมันทำที่ไต้หวัน ซึ่งอากาศมันไม่ได้แตกต่างกับบ้านเรามาก  ที่สำคัญมันน่าจะทำมาจากไม้อัด ซึ่งแข้งแรงกว่า ไม้แผ่นเดียว อาการนี้มันเลยน้อยกว่า       

หมายเหตุ
ผมจะมีเหล็กฟุตเอาไว้วัดความสูงของสาย ถ้ามันสูงกว่าปกติแสดงว่า อากาศมันชื้น
ถ้าใส่เซลิก้าไว้แล้วยังสูง แสดงว่าหมดอายุ  ให้เอามาตากแดด หรือใส่ไมโครเวฟ เอามาใช้ต่อได้
ผมพึ่งใส่ไมโครเวฟ เอามาใช้ใหม่  อาการท้องป่อง หายเป็นปลิดทิ้ง