Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องเริ่มนับที่เสียง C ไม่เป็น A ตามอักษรภาษาอังกฤษ  (อ่าน 20704 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
ผมเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างต้องมีเหตุผล มีที่มาที่ไป 
ทุกเหตุผลเกิดจากการสมมุติฐานของมนุษย์ทั้งนั้น 
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข

Seraph

  • member
  • ***
  • กระทู้: 293
เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอกครับ ไม่อย่างนั้นคงต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงเรียกหมาว่าหมา ทำไมไม่เรียกหมาว่าแมวหรือปลา หรือ ฯลฯ

เรื่องบางเรื่องไม่ต้องมีเหตุผลครับ
แต่เรื่องนี้มันอยู่ในบางเรื่องไหน บางเรื่องที่มีเหตุผล หรือ บางเรื่งที่ไม่มีเหตุผล
เรายังไม่ได้ข้อสรุปเลยครับ

จริงๆแล้วมันก็ไล่ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษนะคือ A B C D E F G (กรณีเริ่มนับจาก A)
แต่ทำไมต้องไปเริ่มนับที่อักษรตัว C   ประเด็นก็คือไม่ใช่ให้เริ่มโน๊ตแรกที่เสียง A นะแต่ให้เริ่มที่เสียง C นี่แหละ แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า A เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก
มีเหตุผลอะไร

คำถามของคุณถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณถามเกี่ยวกับการตั้งชื่อตัวโน๊ต ถูกหรือไม่ ผมก็ให้ตรรกะไปว่าถ้าคุณถามเช่นนี้มันก็เหมือนคำถามว่าทำไมถึงเรียกหมาว่าหมา ทำไมจึงไม่เรียกหมาว่าแมวหรือปลา หรืออย่างอื่น ซึ่งถ้าคุณให้คำตอบแก่คำถามของผมได้บางทีมันอาจมีคำตอบแก่คำถามของคุณก็ได้

ถ้าสมมติตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกเป็นตัว Z แล้วไล่กลับหลังมา แล้วผมเปลี่ยนคำถามเป็นว่า "แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า Z เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก" คุณว่าคำถามอย่างนี้มีประโยชน์อะไรหรือไม่

ถ้าสมมติว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษเรียงกันอย่างนี้ C D E F G A B H I J K...Z อย่างนี้คุณยังจะตั้งคำถามเดิมอยู่หรือไม่

ถ้าคำถามเป็นว่า "แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า 1 เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับตัวเลขตัวแรก มีเหตุผลอะไร" อย่างนี้คุณคิดว่าอย่างไร

และคำถามอื่นๆอีกมากมายที่จะสามารถเอามาตั้งได้ ถ้ามันเป็นเรื่องของการตั้งชื่อ ซึ่งการตั้งชื่อมันมีเหตุผลด้วยหรือ


ตรรกะคุณเพี้ยนแล้วครับ คุณจับประเด็นผิดไปเรื่องของชื่อตัวอักษรโน่น ถ้าคุณจับประเด็นถูกไอ้ที่พูดมายาวๆคุณจะไม่พดออกมาเลย ประเด็นทั้งหมดมันอยู่ในข้อความที่ว่า โน๊ตตัวแรกน่าจะคู่กับอักษรตัวแรก ณ วันนี้อักษรตัวแรกชื่อ A จึงถามถึงชื่อ A ครับ ถ้าอักษรตัวแรกชื่ออื่นก็ตเองใช้ชื่อนั้นนำมาถาม ซึ่งไม่ว่าจะใช้สัญลักษณ์ว่าอะไรก็ตามประเด็นย่อมหมายถึงอักษรตัวแรกเสมอ คุณไปเอาประเด็นเรื่องชื่อมาพูดนั้น ผิดประเด็น แล้วก็ยกตัวอย่างไปเรื่องตัวเลข 1 อีก ซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเพราะ ณ วันนี้เค้าไม่ได้นำตัวเลขมาเป็นชื่อโน๊ต เค้าใช้ตัวอักษร A B C ถ้าหากว่าเค้าใช้ชื่อเป็นตัวเลขจริงแล้วโน๊ตตัวแรกใช้เลข 3 ก็ต้องเกิดคำถามอยู่ดี นี่คือประเด็นซึ่งเข้าใจไม่ยาก แต่บางคนไม่เข้าใจ
แล้วไปยกเอาเรื่องชื่อหมาชื่อแมวมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งมันไม่สามารถเทียบเคียงกับกรณีดังกล่าวได้ เพราะการตั้งชื่อหมา แมว ไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งใดกับสิ่งใด แต่เรื่องของผมนั้นเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสิ่ง 2 คือคือโน๊ต กับตัวอักษรซึ่งทั้ง 2 สิ่งนั้นมีการไปของแต่ละอย่างตามลำดับ คือ ตัวโน๊ตก็เดินไปตามระดับเสียง ตัวอักษรก็เดินไปตามลำดับ ฉะนั้นตัวอย่างที่ยกมาเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น ไม่ใช่เรื่องที่นำมาเทียบเคียงเป็นกรณีเดียวกันได้ หรือพูดง่ายๆอีกแบบก็คือว่าประเด็นอยู่ที่เรื่องการจับคู่กันระหว่างตัวโน๊ตกับตัวอักษรครับ ไม่ใช่เรื่องการตั้งชื่อ โน๊ตจะชื่ออะไรเราไม่ได้ใส่ใจตรงนั้นแต่เราคิดถึงแค่ว่าการจับคู่ทำไมทำเช่นนั้น ซึ่งอักษรตัวแรกที่เราพูดถึงนั้นมันจะชื่ออะไรก็ช่าง ณ วันนี้มันชื่อ A เราจึงเอา A มาเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อถึงอักษรตัวแรกเท่านั้น

คุณนั่นแหละที่เข้าใจผิด โน๊ต C ไม่ได้เป็นโน๊ตตัวแรกของทุก scale มันเป็นโน๊ตตัวแรกของ scale C major และ C minor เท่านั้น ถ้าเป็น scale อื่นโน็ตตัวแรกก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น

scale D major : D, E, F♯, G, A, B, C♯, D

scale E major : E, F♯, G♯, A, B, C♯, D♯, E

scale F major : F, G, A, B♭, C, D, E, F etc.

แล้วทีอย่างนี้ทำไมถึงไม่ถามว่า "ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (D), (E), (F) ถึงเรียกว่า D, E, F ไม่เรียกว่า A เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก มีเหตุผลอะไร" คงเป็นเพราะไม่รู้จัก scale พวกนี้สินะ

คุณนั่นแหละที่เข้าใจผิดว่าโน๊ต C เป็นโน๊ตตัวแรกแต่มันไม่ใช่ จึงมาตั้งคำถามผิดๆอย่างนี้

ถ้าคุณรู้จัก scale A major ที่ประกอบไปด้วยโน๊ต A, B, C♯, D, E, F♯, G♯, A ตามลำดับ อย่างนี้ยังจะมาถามอีกหรือไม่

scale C major เป็น scale ที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดและเป็นพื้นฐานของการเรียนดนตรีเพราะเป็น scale ที่ไม่มีโน๊ตตัวอื่นติดชาร์ป (#) หรือแฟลต (b) เลยทำให้เข้าใจผิดไปว่าโน๊ต C เป็นโน๊ตตัวแรกของดนตรี ทีนี้เข้าใจหรือยัง

ก่อนที่จะมาตั้งคำถามอย่างนี้ไปเรียนเรื่อง scale ดนตรีมาเสียก่อนนะ แล้วค่อยมาถาม แต่ถ้าเรียนมาแล้วคงไม่มาถามหรอก เพราะมันเป็นเรื่องง่ายมากๆ "แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เข้าใจ"

mccartney

  • member
  • ***
  • กระทู้: 205
เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอกครับ ไม่อย่างนั้นคงต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงเรียกหมาว่าหมา ทำไมไม่เรียกหมาว่าแมวหรือปลา หรือ ฯลฯ

เรื่องบางเรื่องไม่ต้องมีเหตุผลครับ
แต่เรื่องนี้มันอยู่ในบางเรื่องไหน บางเรื่องที่มีเหตุผล หรือ บางเรื่งที่ไม่มีเหตุผล
เรายังไม่ได้ข้อสรุปเลยครับ

จริงๆแล้วมันก็ไล่ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษนะคือ A B C D E F G (กรณีเริ่มนับจาก A)
แต่ทำไมต้องไปเริ่มนับที่อักษรตัว C   ประเด็นก็คือไม่ใช่ให้เริ่มโน๊ตแรกที่เสียง A นะแต่ให้เริ่มที่เสียง C นี่แหละ แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า A เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก
มีเหตุผลอะไร

คำถามของคุณถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณถามเกี่ยวกับการตั้งชื่อตัวโน๊ต ถูกหรือไม่ ผมก็ให้ตรรกะไปว่าถ้าคุณถามเช่นนี้มันก็เหมือนคำถามว่าทำไมถึงเรียกหมาว่าหมา ทำไมจึงไม่เรียกหมาว่าแมวหรือปลา หรืออย่างอื่น ซึ่งถ้าคุณให้คำตอบแก่คำถามของผมได้บางทีมันอาจมีคำตอบแก่คำถามของคุณก็ได้

ถ้าสมมติตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกเป็นตัว Z แล้วไล่กลับหลังมา แล้วผมเปลี่ยนคำถามเป็นว่า "แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า Z เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก" คุณว่าคำถามอย่างนี้มีประโยชน์อะไรหรือไม่

ถ้าสมมติว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษเรียงกันอย่างนี้ C D E F G A B H I J K...Z อย่างนี้คุณยังจะตั้งคำถามเดิมอยู่หรือไม่

ถ้าคำถามเป็นว่า "แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า 1 เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับตัวเลขตัวแรก มีเหตุผลอะไร" อย่างนี้คุณคิดว่าอย่างไร

และคำถามอื่นๆอีกมากมายที่จะสามารถเอามาตั้งได้ ถ้ามันเป็นเรื่องของการตั้งชื่อ ซึ่งการตั้งชื่อมันมีเหตุผลด้วยหรือ


ตรรกะคุณเพี้ยนแล้วครับ คุณจับประเด็นผิดไปเรื่องของชื่อตัวอักษรโน่น ถ้าคุณจับประเด็นถูกไอ้ที่พูดมายาวๆคุณจะไม่พดออกมาเลย ประเด็นทั้งหมดมันอยู่ในข้อความที่ว่า โน๊ตตัวแรกน่าจะคู่กับอักษรตัวแรก ณ วันนี้อักษรตัวแรกชื่อ A จึงถามถึงชื่อ A ครับ ถ้าอักษรตัวแรกชื่ออื่นก็ตเองใช้ชื่อนั้นนำมาถาม ซึ่งไม่ว่าจะใช้สัญลักษณ์ว่าอะไรก็ตามประเด็นย่อมหมายถึงอักษรตัวแรกเสมอ คุณไปเอาประเด็นเรื่องชื่อมาพูดนั้น ผิดประเด็น แล้วก็ยกตัวอย่างไปเรื่องตัวเลข 1 อีก ซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเพราะ ณ วันนี้เค้าไม่ได้นำตัวเลขมาเป็นชื่อโน๊ต เค้าใช้ตัวอักษร A B C ถ้าหากว่าเค้าใช้ชื่อเป็นตัวเลขจริงแล้วโน๊ตตัวแรกใช้เลข 3 ก็ต้องเกิดคำถามอยู่ดี นี่คือประเด็นซึ่งเข้าใจไม่ยาก แต่บางคนไม่เข้าใจ
แล้วไปยกเอาเรื่องชื่อหมาชื่อแมวมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งมันไม่สามารถเทียบเคียงกับกรณีดังกล่าวได้ เพราะการตั้งชื่อหมา แมว ไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งใดกับสิ่งใด แต่เรื่องของผมนั้นเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสิ่ง 2 คือคือโน๊ต กับตัวอักษรซึ่งทั้ง 2 สิ่งนั้นมีการไปของแต่ละอย่างตามลำดับ คือ ตัวโน๊ตก็เดินไปตามระดับเสียง ตัวอักษรก็เดินไปตามลำดับ ฉะนั้นตัวอย่างที่ยกมาเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น ไม่ใช่เรื่องที่นำมาเทียบเคียงเป็นกรณีเดียวกันได้ หรือพูดง่ายๆอีกแบบก็คือว่าประเด็นอยู่ที่เรื่องการจับคู่กันระหว่างตัวโน๊ตกับตัวอักษรครับ ไม่ใช่เรื่องการตั้งชื่อ โน๊ตจะชื่ออะไรเราไม่ได้ใส่ใจตรงนั้นแต่เราคิดถึงแค่ว่าการจับคู่ทำไมทำเช่นนั้น ซึ่งอักษรตัวแรกที่เราพูดถึงนั้นมันจะชื่ออะไรก็ช่าง ณ วันนี้มันชื่อ A เราจึงเอา A มาเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อถึงอักษรตัวแรกเท่านั้น

คุณนั่นแหละที่เข้าใจผิด โน๊ต C ไม่ได้เป็นโน๊ตตัวแรกของทุก scale มันเป็นโน๊ตตัวแรกของ scale C major และ C minor เท่านั้น ถ้าเป็น scale อื่นโน็ตตัวแรกก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น

scale D major : D, E, F♯, G, A, B, C♯, D

scale E major : E, F♯, G♯, A, B, C♯, D♯, E

scale F major : F, G, A, B♭, C, D, E, F etc.

แล้วทีอย่างนี้ทำไมถึงไม่ถามว่า "ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (D), (E), (F) ถึงเรียกว่า D, E, F ไม่เรียกว่า A เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก มีเหตุผลอะไร" คงเป็นเพราะไม่รู้จัก scale พวกนี้สินะ

คุณนั่นแหละที่เข้าใจผิดว่าโน๊ต C เป็นโน๊ตตัวแรกแต่มันไม่ใช่ จึงมาตั้งคำถามผิดๆอย่างนี้

ถ้าคุณรู้จัก scale A major ที่ประกอบไปด้วยโน๊ต A, B, C♯, D, E, F♯, G♯, A ตามลำดับ อย่างนี้ยังจะมาถามอีกหรือไม่

scale C major เป็น scale ที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดและเป็นพื้นฐานของการเรียนดนตรีเพราะเป็น scale ที่ไม่มีโน๊ตตัวอื่นติดชาร์ป (#) หรือแฟลต (b) เลยทำให้เข้าใจผิดไปว่าโน๊ต C เป็นโน๊ตตัวแรกของดนตรี ทีนี้เข้าใจหรือยัง

ก่อนที่จะมาตั้งคำถามอย่างนี้ไปเรียนเรื่อง scale ดนตรีมาเสียก่อนนะ แล้วค่อยมาถาม แต่ถ้าเรียนมาแล้วคงไม่มาถามหรอก เพราะมันเป็นเรื่องง่ายมากๆ "แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เข้าใจ"





ผิดประเด็นหลงประเด็นอยู่นาน ไปเรื่องหมูเรื่งหมา เรื่อง1เรื่อง2 พออธิบายเข้าหน่อยก็เริ่มจะเข้าใจประเด็นเลยมาด่ากลับซะหน่อยเพื่อกู้หน้า ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ใครๆก็คงอาย เห็นคนอื่นเค้าก็เข้าใจประเด็นและตอบกันมาดี    แล้วเรื่องนี้คนที่เค้าเข้าใจประเด็นเค้าตอบกันไปตั้งแต่กลางวันแล้ว ก็ไปก็อปคำตอบเค้ามาพูดต่อ หลังจากที่ตัวเองเข้าใจประเด็นช้าที่สุดเป็นคนสุดท้าย ก้ไปหาคำตอบจากที่เค้าโพสๆไว้มาพูดซ้ำเพื่อแก้เกี้ยว

Seraph

  • member
  • ***
  • กระทู้: 293
เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอกครับ ไม่อย่างนั้นคงต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงเรียกหมาว่าหมา ทำไมไม่เรียกหมาว่าแมวหรือปลา หรือ ฯลฯ

เรื่องบางเรื่องไม่ต้องมีเหตุผลครับ
แต่เรื่องนี้มันอยู่ในบางเรื่องไหน บางเรื่องที่มีเหตุผล หรือ บางเรื่งที่ไม่มีเหตุผล
เรายังไม่ได้ข้อสรุปเลยครับ

จริงๆแล้วมันก็ไล่ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษนะคือ A B C D E F G (กรณีเริ่มนับจาก A)
แต่ทำไมต้องไปเริ่มนับที่อักษรตัว C   ประเด็นก็คือไม่ใช่ให้เริ่มโน๊ตแรกที่เสียง A นะแต่ให้เริ่มที่เสียง C นี่แหละ แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า A เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก
มีเหตุผลอะไร

คำถามของคุณถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณถามเกี่ยวกับการตั้งชื่อตัวโน๊ต ถูกหรือไม่ ผมก็ให้ตรรกะไปว่าถ้าคุณถามเช่นนี้มันก็เหมือนคำถามว่าทำไมถึงเรียกหมาว่าหมา ทำไมจึงไม่เรียกหมาว่าแมวหรือปลา หรืออย่างอื่น ซึ่งถ้าคุณให้คำตอบแก่คำถามของผมได้บางทีมันอาจมีคำตอบแก่คำถามของคุณก็ได้

ถ้าสมมติตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกเป็นตัว Z แล้วไล่กลับหลังมา แล้วผมเปลี่ยนคำถามเป็นว่า "แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า Z เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก" คุณว่าคำถามอย่างนี้มีประโยชน์อะไรหรือไม่

ถ้าสมมติว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษเรียงกันอย่างนี้ C D E F G A B H I J K...Z อย่างนี้คุณยังจะตั้งคำถามเดิมอยู่หรือไม่

ถ้าคำถามเป็นว่า "แต่ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (C) ถึงเรียกว่า C ไม่เรียกว่า 1 เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับตัวเลขตัวแรก มีเหตุผลอะไร" อย่างนี้คุณคิดว่าอย่างไร

และคำถามอื่นๆอีกมากมายที่จะสามารถเอามาตั้งได้ ถ้ามันเป็นเรื่องของการตั้งชื่อ ซึ่งการตั้งชื่อมันมีเหตุผลด้วยหรือ


ตรรกะคุณเพี้ยนแล้วครับ คุณจับประเด็นผิดไปเรื่องของชื่อตัวอักษรโน่น ถ้าคุณจับประเด็นถูกไอ้ที่พูดมายาวๆคุณจะไม่พดออกมาเลย ประเด็นทั้งหมดมันอยู่ในข้อความที่ว่า โน๊ตตัวแรกน่าจะคู่กับอักษรตัวแรก ณ วันนี้อักษรตัวแรกชื่อ A จึงถามถึงชื่อ A ครับ ถ้าอักษรตัวแรกชื่ออื่นก็ตเองใช้ชื่อนั้นนำมาถาม ซึ่งไม่ว่าจะใช้สัญลักษณ์ว่าอะไรก็ตามประเด็นย่อมหมายถึงอักษรตัวแรกเสมอ คุณไปเอาประเด็นเรื่องชื่อมาพูดนั้น ผิดประเด็น แล้วก็ยกตัวอย่างไปเรื่องตัวเลข 1 อีก ซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเพราะ ณ วันนี้เค้าไม่ได้นำตัวเลขมาเป็นชื่อโน๊ต เค้าใช้ตัวอักษร A B C ถ้าหากว่าเค้าใช้ชื่อเป็นตัวเลขจริงแล้วโน๊ตตัวแรกใช้เลข 3 ก็ต้องเกิดคำถามอยู่ดี นี่คือประเด็นซึ่งเข้าใจไม่ยาก แต่บางคนไม่เข้าใจ
แล้วไปยกเอาเรื่องชื่อหมาชื่อแมวมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งมันไม่สามารถเทียบเคียงกับกรณีดังกล่าวได้ เพราะการตั้งชื่อหมา แมว ไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งใดกับสิ่งใด แต่เรื่องของผมนั้นเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสิ่ง 2 คือคือโน๊ต กับตัวอักษรซึ่งทั้ง 2 สิ่งนั้นมีการไปของแต่ละอย่างตามลำดับ คือ ตัวโน๊ตก็เดินไปตามระดับเสียง ตัวอักษรก็เดินไปตามลำดับ ฉะนั้นตัวอย่างที่ยกมาเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น ไม่ใช่เรื่องที่นำมาเทียบเคียงเป็นกรณีเดียวกันได้ หรือพูดง่ายๆอีกแบบก็คือว่าประเด็นอยู่ที่เรื่องการจับคู่กันระหว่างตัวโน๊ตกับตัวอักษรครับ ไม่ใช่เรื่องการตั้งชื่อ โน๊ตจะชื่ออะไรเราไม่ได้ใส่ใจตรงนั้นแต่เราคิดถึงแค่ว่าการจับคู่ทำไมทำเช่นนั้น ซึ่งอักษรตัวแรกที่เราพูดถึงนั้นมันจะชื่ออะไรก็ช่าง ณ วันนี้มันชื่อ A เราจึงเอา A มาเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อถึงอักษรตัวแรกเท่านั้น

คุณนั่นแหละที่เข้าใจผิด โน๊ต C ไม่ได้เป็นโน๊ตตัวแรกของทุก scale มันเป็นโน๊ตตัวแรกของ scale C major และ C minor เท่านั้น ถ้าเป็น scale อื่นโน็ตตัวแรกก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น

scale D major : D, E, F♯, G, A, B, C♯, D

scale E major : E, F♯, G♯, A, B, C♯, D♯, E

scale F major : F, G, A, B♭, C, D, E, F etc.

แล้วทีอย่างนี้ทำไมถึงไม่ถามว่า "ทำไมโน๊ตเสียงนี้ (D), (E), (F) ถึงเรียกว่า D, E, F ไม่เรียกว่า A เพราะเป็นโน๊ตตัวแรก น่าจะคู่กับอักษรตัวแรก มีเหตุผลอะไร" คงเป็นเพราะไม่รู้จัก scale พวกนี้สินะ

คุณนั่นแหละที่เข้าใจผิดว่าโน๊ต C เป็นโน๊ตตัวแรกแต่มันไม่ใช่ จึงมาตั้งคำถามผิดๆอย่างนี้

ถ้าคุณรู้จัก scale A major ที่ประกอบไปด้วยโน๊ต A, B, C♯, D, E, F♯, G♯, A ตามลำดับ อย่างนี้ยังจะมาถามอีกหรือไม่

scale C major เป็น scale ที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดและเป็นพื้นฐานของการเรียนดนตรีเพราะเป็น scale ที่ไม่มีโน๊ตตัวอื่นติดชาร์ป (#) หรือแฟลต (b) เลยทำให้เข้าใจผิดไปว่าโน๊ต C เป็นโน๊ตตัวแรกของดนตรี ทีนี้เข้าใจหรือยัง

ก่อนที่จะมาตั้งคำถามอย่างนี้ไปเรียนเรื่อง scale ดนตรีมาเสียก่อนนะ แล้วค่อยมาถาม แต่ถ้าเรียนมาแล้วคงไม่มาถามหรอก เพราะมันเป็นเรื่องง่ายมากๆ "แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เข้าใจ"





ผิดประเด็นหลงประเด็นอยู่นาน ไปเรื่องหมูเรื่งหมา เรื่อง1เรื่อง2 พออธิบายเข้าหน่อยก็เริ่มจะเข้าใจประเด็นเลยมาด่ากลับซะหน่อยเพื่อกู้หน้า ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ใครๆก็คงอาย เห็นคนอื่นเค้าก็เข้าใจประเด็นและตอบกันมาดี    แล้วเรื่องนี้คนที่เค้าเข้าใจประเด็นเค้าตอบกันไปตั้งแต่กลางวันแล้ว ก็ไปก็อปคำตอบเค้ามาพูดต่อ หลังจากที่ตัวเองเข้าใจประเด็นช้าที่สุดเป็นคนสุดท้าย ก้ไปหาคำตอบจากที่เค้าโพสๆไว้มาพูดซ้ำเพื่อแก้เกี้ยว

ที่ผมหลงประเด็นนั้นน่ะเพราะไม่คิดว่าจะมีคนที่ไม่เข้าใจเรื่องธรรมดาๆอย่างนี้ด้วย จึงเข้าใจว่าถามเรื่องการตั้งชื่อ เรื่องนี้น่ะผมเข้าใจอยู่แล้ว แล้วผมก็ไม่ได้ไปลอกคำตอบจากคนอื่นมาด้วย คำตอบของคนอื่นน่ะผมไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ขอให้เข้าใจไว้ด้วย

พอตัวเองได้รู้คำตอบที่ใครๆเขาก็รู้กัน มีแต่ตัวเองคนเดียวที่ไม่รู้เลยมาเยาะเย้ยถากถางซะหน่อยเพื่อกู้หน้า ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ใครๆก็คงอาย

ohm_pea

  • member
  • ***
  • กระทู้: 919
  • เพศ: ชาย
อ้า.....มันคนละส่วนกันครับบบ แค่เป็นตัวอักษรเหมือนกัน แต่หลักการคิดต่างกัน
จันทาร ดีกว่า จันไร

ASDFasdfASDF

  • member
  • ***
  • กระทู้: 339
เข้าใจเรื่องที่น้าๆอธิบายเรื่อง scale นะแต่...
ผมก็สงสัยตามเจ้าของกระทู้นะคิดว่าเจ้าของกระทู้สงสัยแบบนี้

C D E F G A B = โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
ทำไมไม่เรียง
A B C D E F G = โด เร มี ฟา ซอล ลา ที

เพราะโดยพฤติกรรมคนปกติทั่วไป(ที่ไม่ใช่นักดนตรี)เราท่องจำ A B C D E F G , 1 2 3 4 5 6 7, โด เร มี ฟา ซอล ลา ที  กันจนชิน
ถ้า A B C D E F G = โด เร มี ฟา ซอล ลา ที มันจะทำให้เราจำและเรียนรู้ได้เร็วขึ้นหรือเปล่า?

guitara

  • member
  • ***
  • กระทู้: 125
โน๊ตตัวลา (A) ในทุกช่วงคู่แปด เป็นโน๊ตตัวเดียวที่มีความถึ่เป็นตัวเลขกลมๆ ไม่มีทศนิยม
และโน๊ตตัวลาที่ความถี่ 440 เป็นโน๊ตหลักในการเทียบเสียงวงดุริยางค์

คิดว่าสมัยก่อนเห็นเลขกลมๆนี้สวยกว่าเพื่อน จึงใส่สัญลักษณ์ A

jazzinblue

  • member
  • ***
  • กระทู้: 105

aomwai

  • member
  • ***
  • กระทู้: 10
ตามความเข้าใจของผม ที่เริ่มจาก C เพราะมาจากการที่เราเริ่มใช้โหมดตั้งต้นเป็น Ionion Mode เป็นโหมดแรกจากโหมดทั้ง 7 (แล้วถูกเรียกว่า Major Scale ในภายหลัง) ซึ่งพอเช็คตามความถี่ของแต่ละโน้ตและโครงสร้างระยะห่างของเสียงใน Ionion Mode แล้วปรากฏว่าสมาชิกโน้ตใน C Ionion Mode (หรือ C Major Scale) เป็นโน้ตที่ไม่ติด Accidental (b,#) ด้วยเหตุนี้ อาจจะนำมาซึ่งการเริ่มที่โน้ต C สืบทอดต่อกันมานั่นเองครับ เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ดนตรี,ฟิสิกส์เสียง,ทฤษฎีดนตรี นั่นล่ะครับ 555

ohmo

  • member
  • ***
  • กระทู้: 91
เข้าใจเรื่องที่น้าๆอธิบายเรื่อง scale นะแต่...
ผมก็สงสัยตามเจ้าของกระทู้นะคิดว่าเจ้าของกระทู้สงสัยแบบนี้

C D E F G A B = โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
ทำไมไม่เรียง
A B C D E F G = โด เร มี ฟา ซอล ลา ที

เพราะโดยพฤติกรรมคนปกติทั่วไป(ที่ไม่ใช่นักดนตรี)เราท่องจำ A B C D E F G , 1 2 3 4 5 6 7, โด เร มี ฟา ซอล ลา ที  กันจนชิน
ถ้า A B C D E F G = โด เร มี ฟา ซอล ลา ที มันจะทำให้เราจำและเรียนรู้ได้เร็วขึ้นหรือเปล่า?

ผมก็เข้าใจว่า จขกท เขาถาม และหมายความถึงแบบนี้นะครับ  เรื่องที่หลายๆท่านตอบเกี่ยวกับการติด # ติด b ผมว่าก็ไม่ค่อยตรงคำตอบของ จขกท เท่าไหร่

ก็คิดง่ายๆว่า ถ้าที่เราจับคอร์ด C เนี่ย ให้มันชื่อว่า A  และ การจับคอร์ด D ให้มันชื่อว่า B ผมว่ามันก็ไม่ติด # หรือติด b นะ

ส่วนคำตอบจริงๆนั้น ต้องรอต่อไปครับ ฮ่าๆ สมัยก่อนผมเองก็เคยคิดแต่ไม่ได้สนใจอยากรู้จริงจัง ตอนนี้รอคำตอบเหมือนกันครับ

Non_aR 0_o!

  • member
  • ***
  • กระทู้: 516
  • ชมรมคนเลี้ยงเด็กแห่งประเทศไทย อิอิอิอิ
นานแล้วไม่ได้เข้ามาอ่าน อ่านไปก็มันดีมีการปะทะคารมกัน ขอบตอบตามความเข้าใจนะคับ ออกตัวก่อนน๊ะคับไม่ได้เก่งกาจอะไรอาศัยศึกษาลักจำมาเหมือนกัน

พอเข้าใจที่ ตั้งคำถามว่าทำไมเริ่มที่ C ทำไมไม่เริ่มที่ A เหตุผลก็คิดว่ามาจาก โน๊ตใน C major ไม่มีโน๊ตที่ติด # และ b ทำให้การออกเสียงและการจำเป็นธรรมชาติที่มากว่า สเกลที่ มีโน๊ตติด # และ b
C major สเกล มีโน๊ต C D EF G A BC ตามโครงสร้างและกฎเหล็กของ Mjor scale
A major สเกล มีโน๊ต A B C#D E F# G#A หรือภาษาดนตรีเรียกสั้น ว่า 3 sharps ก็จะเข้าใจกันว่าเป็น A major สเกล

ลองท่องจำดูอันไหนท่งจำยากกว่ากันอันไหนง่ายและเป็นธรรมชาติกว่ากัน อิอิ ผมตอบตามความเข้าใจของผมน๊ะ

ปล. เสริมนิดถ้าคุณ สามารถไลสเกล c major ได้ทุก แพทเทิร์นทั่วคอนั่นแหละ แสดงว่าคุณมีแผนที่ทางเดินสเกลทั้งหมดอยู่กับตัวแล้ว

Tongsan

  • member
  • ***
  • กระทู้: 117
รู้สึกว่า จะมีประวัติจากตานี่ Helmholtz pitch notation เขาเป็นคนกำหนดมาตรฐานมากับออร์แกนของเขา ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยนะ (ผิดถูกขออภัย ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ)

https://en.wikipedia.org/wiki/Helmholtz_pitch_notation

แล้วก็เป็นเรื่องของสแตนดาร์ดตาม Link นี้

https://en.wikipedia.org/wiki/Scientific_pitch_notation

จะว่าไปแล้วดนตรี ก็เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์เหมือนกันนะ

samaklen

  • member
  • ***
  • กระทู้: 828
น้าหน่อยอธิบายชัดเจน เป็นเหตุเป็นผลดีนะครับ

pickpanther

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,150
  • เพศ: ชาย
    • My Page
ถ้าหมายถึงทำไมโน้ตตัว "โด" ตามหลักสากลไม่เริ่มจากตัวอักษร A
คุ้นๆว่าเคยอ่านประวัติศาสตร์ของตัวโน้ตผ่านๆว่าเมื่อก่อนก็เคยเริ่มนับจากตัว A ให้เป็นโน้ต "โด" ครับ
แต่จำไม่ได้อ่านจากเล่มไหนเดี๋ยวถ้าค้นเจอจะมาตอบอีกทีครับ
FB/PickFingerstyle

ponduro

  • member
  • ***
  • กระทู้: 70
เหมือนเคยอ่านเจอ ว่าเกี่ยวกับช่วงความถี่มี่มนุษย์ได้ยิน อยู่ในช่วง 20-20000 hz
แล้วความถี่แรกที่ได้ยินและจากเปียโนเล่นได้ คือA0=27.5hz
และความสัมพันธ์ได้ 7 รูปแบบ โดเรมีฟาซอล ...
และเสียงแต่ละ octave ความี่เพิ่ม 2 เท่า
27.5  55  110  220  440  880
ผมคิดว่าเค้าเลยตั้งเป็นนี้ A ครับ  ส่วนเรื่อง สเกล คิดว่า น่าจะเป็นทฤษฎีดนตรี ครับ

เส้นทางลูกผู้ชาย

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,065
น้าหน่อยอธิบายชัดเจน เป็นเหตุเป็นผลดีนะครับ
ใช่ครับการอธิบายในเรื่องบันไดเสียง แต่ที่เค้าถาม เรื่องการสมมุติ ในการใช้อักษรว่าในโน้ต ตัว โด นั้นทำไมถึงไม่ใช้ตัว A มาแทนคำว่า โด ครับ ซึ่งตอบไม่ตรงกับคนถาม ซึ่งมีคอมเม้นบนๆได้พยายามมาย้ำแล้วครับ ผมไม่ได้มากวนนะแต่อธิบายคำถามครับ

wachiraza567

  • member
  • ***
  • กระทู้: 183
ตั้งแต่อ่านคำตอบมามีน้าเส้นทางลูกผู้ชายนี้ละที่เข้าใจคำถามอย่างที่ผมเข้าใจ,,ผมจะรอฟังคำตอบจากน้าที่เข้าใจคำถามและรู้คำตอบจริงๆครับ

pickpanther

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,150
  • เพศ: ชาย
    • My Page
หลังจากที่คุ้นๆว่าเคยอ่านผ่านตามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมลองไปค้นจากกองหนังสือที่สะสมไว้จนเจอความรู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและน่าสนใจครับ (อ้างอิงจากหนังสือ Overdrive ฉบับเดือน เมษา 2004 , #อาจารย์ปู่สอนว่า)

ฉบับนี้น่าจะไม่มีขายย้อนหลังแล้ว ขออนุญาตคัดลอกข้อความส่วนหนึ่งมาแบ่งปันกันในนี้นะครับ
----------------------------------------------------------------------------------

ระบบการอ่านเขียนโน้ตดนตรี

   สำหรับชื่อตัวโน้ตที่เรียก โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด นับรวมกันได้ 8 เสียงนั้น ในตำราเรียกว่า Syllabic หรือ Syllables System หมายถึง "ชื่อตัวโน้ตตามลำดับเสียง"  เรียกในภาษาอังกฤษว่า Pitch Names หมายความถึงว่า ชื่อของตัวโน้ตแต่ละตัวเหล่านี้ จะบอกถึงระดับความสูงต่ำของเสียงดนตรี แต่ละเสียงที่อยู่ในขั้นต่ำสูง ต่างๆกันออกไปโดยไม่ซ้ำกัน ต่อมาในภายหลังพวกครูฝรั่งในอังกฤษเห็นว่า ชื่อตัวโน้ตเหล่านี้ เมื่อมาเขียนในภาษาอังกฤษว่า Do Re Me Fa Sol La Ti Do ฟังดูแล้ว ไม่ใช่ของพวกเราชาวอังกฤษ ก็เลยเขียนเสียใหม่ว่า Doh Ray Me Fah Soh Lah Te Doh เรียกว่าระบบ Tonic Sol-Fa เอาไว้ใช้ในการร้องออกเสียงโดยเฉพาะ และยังคิดตั้ง "A B C D E F G A" เรียกในภาษาอังกฤษว่า Alphabetic หรือ Alphabetical Names ขึ้นมาไว้ใช้เรียกชื่อตัวโน้ตในการอ่านเขียน และรวมทั้งยังคิดตั้ง "ชื่อตัวโน้ตตามลำดับเลขหมาย" คือใช้ตัวเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 เรียกในภาษาอังกฤษว่า Numerical Names หรือถ้าเมื่อเปลี่ยนเป็นใช้ตัวเลขโรมัน  I II III IV V VI VII VIII กำกับควบคู่กันไป เพื่อจะใช้จำแนกให้คำอธิบาย ถึงความสำคัญของตำแหน่งตัวโน้ต ในการอ่านเขียนทางทฤษฎี เวลาจะเรียนจะสอนกันในเรื่อง Harmony หรือ Counterpoint ก็เรียกว่า Degree Names สังเกตว่าชื่อตัวโน้ตทั้ง 6 ระบบ เมื่อเขียนเทียบเคียงดูแล้วก็จะตรงกันดังนี้ สำหรับชื่อตัวโน้ตที่เขียนว่า Ut Re Mi Fa Sol La Si นั้นเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในสมัยของครูกีโด

Solmization System   Ut   Re   Mi   Fa   Sol   La   Si
Syllabic System         Do  Re   Mi   Fa   Sol   La   Ti   Do
Tonic Sol - Fa            Doh Ray Me  Fah  Soh La   Te  Doh
Alphabetical Names    C    D    E    F     G     A     B   C
Numerical Names       1     2    3    4     5     6     7    8
Degree Names            I     II   III   IV   V    VI    VII   VIII

   ถึงตรงนี้อาจจะสงสัยกันว่า ทำไมชื่อตัวโน้ตตามลำดับตัวอักษร A B C D E F G อันเป็นตัวอักษร 7 ตัวแรกในภาษาอังกฤษ จึงไม่ตรงกับชื่อตัวโน้ตตามลำดับเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด มาเสียตั้งแต่ทีแรก แต่กลับตรงกันตั้งแต่ตัวอักษร C เรียงย้อนไปตามลำดับ เรื่องนี้ค้นหาหลักฐานไม่พบว่า พวกฝรั่งอธิบายกันมาตั้งแต่สมัยโบราณนานกาเลว่าอย่างไร อาจจะมีที่มาจากเรื่องของลักษณะ การจัดเรียงลำดับตำแหน่งตัวโน้ตที่เรียกว่า Mode หรือ Modal Scale ที่ใช้สืบทอดกันมา จากบทเพลงขับร้องของชาวกรีกโบราณก่อนหน้านั้น อันมีวิธีจัดเรียงลำดับชื่อตัวโน้ตดนตรีให้เป็นระเบียบเรียกว่า Mode อยู่ในหลายๆรูปแบบ และบรรดา Mode เหล่านี้ ต่อมาเมื่อเรียกใช้ชื่อเรียงตามลำดับตัวอักษรในภาษาอังกฤษ (Alphabetic) ก็จะต้องคิดวิธีเริ่มต้นนับกันตั้งแต่ A B C D E F G ในรูปลักษระที่ต่อๆมา เรียกว่า Diatonic Scale ตามตัวอย่างต่อไปนี้ สังเกตว่าการจัดเรียงลำดับเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด ตามรูปตารางข้างบน ที่ไปตรงกับระบบชื่อตามตัวอักษร C D E F G A B C ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของวิธีการจัดลำดับเสียง และนับว่าเป็น Mode หนึ่งในรูปลักษณะเหล่านั้น

Mode 1    A B C D E F G A
Mode 2       B C D E F G A B
Mode 3          C D E F G A B C
Mode 4             D E F G A B C D
Mode 5                E F G A B C D E
Mode 6                   F G A B C D E F
Mode 7                      G A B C D E F G

   ในรูปแบบของการจัดเรียงลำดับเสียงตัวโน้ตเหล่านี้ แต่ละชุดก็เรียกว่า Mode มีชื่อเรียกเฉพาะเป็นชุดๆไป ซึ่งในสมัยต่อมา ก็มาเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า Scale แบ่งออกเป็นชนิด Major และชนิด Minor ต่างๆ แยกแยะออกไปอีก ตรงนี้จะต้องสังเกตว่า Mode ชุดต่างๆเหล่านี้ เมื่อเขียนโดยใช้ชื่อตัวโน้ตตามลำดับ (Syllabic) เรียงตรงตามระบบชื่อตัวอักษร (Alpahbetic) ก็จะเขียนได้ดังนี้ และอาจจะเป็นคำอธิบายว่าเหตุใดชื่อตามระบบตัวอักษร A B C D ฯลฯ จึงไม่ตรงกับชื่อตามลำดับเสียง โด เร มี ฟา ฯลฯ มาเสียตั้งแต่ในชั้นแรก

Mode 1   ลา ที โด เร มี ฟา ซอล ลา
Mode 2       ที โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
Mode 3          โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด
Mode 4              เร มี ฟา ซอล ลา ที โด เร
Mode 5                 มี ฟา ซอล ลา ที โด เร มี
Mode 6                    ฟา ซอล ลา ที โด เร มี ฟา
Mode 7                        ซอล ลา ที โด เร มี ฟา ซอล

----------------------------------------------------------------------------------

ซึ่งผมอ่านแล้วก็ยังงงๆอยู่ ส่วนตัวทำความเข้าใจได้ว่า แรกเริ่มเดิมทีเมื่อก่อนมีการเรียงลำดับตัวโน้ตตาม Mode แล้ว Mode 3 ก็มีการเรียกในตอนต่อๆมาว่า Major Scale ซึ่งตรงกับ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด
แล้วในเวลาต่อๆมาหลังจากนั้นก็มีการคิดค้นทฤษฎีหรือชื่อเรียกต่างๆแตกออกมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

ปล. คนที่คิดค้นโน้ตดนตรีไว้ให้เราได้อ่านเขียนกันไม่ใช่นักดนตรีนะครับ :)
FB/PickFingerstyle

samaklen

  • member
  • ***
  • กระทู้: 828
ผมเดาว่า น่าจะเป็นเพราะ ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาต้นกำเนิดของระบบทฤษฏีดนตรีครับ

uncle nok

  • member
  • ***
  • กระทู้: 628
ผมว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เมื่อเริ่ม C D E F G  แล้ว จะวนไปที่ A B ทำไม  น่าจะต่อด้วย H I นะครับผมว่า HA-HA