Mode คืออะไรหรือครับ ผมอ่านในหนังสือแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
อย่าเพิ่งเข้าเรื่อง Mode ครับน้า Mode .. มันจะลึกไปหน่อยสำหรับคนเพิ่งหัด improvise อิอิ
ถ้าแม่น Major กับ Minor อะไรก็ง่ายไปหมดนะครับ
ผมคิดว่า มือกีตาร์ที่จะอิมโพไวส์ได้เ่ก่ง ไม่ใช่เพราะ รู้ทุกสเกล ไม่ใช่เพราะมีเทคนิคเหนือชั้น แต่รู้ตัวโน๊ตบนคอกีตาร์ของเค้าว่ามีอะไรบ้าง และอยู่ตรงไหน
และเมื่อคุณรู้โน๊ตทุกตัวบนคอกีตาร์แล้ว ทุกอย่างมันจะมาเองครับ ผมเชื่อเช่นนั้น
โน๊ตบนคอกีตาร์ ก็เหมือนตัวหนังสือ ถ้าเราแค่รู้จัก แต่ผสมคำไม่เป็น ก็ไม่สามารถอ่านออกมาเป็นคำที่ไพรเราะได้ครับ
การรู้โน๊ตทุกตัวบนคอกีตาร์ผมว่าไม่สำคัญมากนะครับ สำหรับผมแล้วก่อนเล่นเพลงอะไร นึกถึงคีย์นั้นก่อน แล้วมอง Root ให้ทั่วคอมามันมีตรงไหนบ้าง ทีนี้ก็ใช้สกิลที่เราฝึกมาไม่ว่าจะเป็นการไล่แบบ Pentatonic หรือแบบธรรมดา ของทุก ๆ Pattern ที่เคยไล่มา (รู้สึกทั้งคอกีตาร์จะไล่ได้ 5-7 Pattern นะครับ แล้วแต่ว่ามัน Cutaway ล้วงเข้าไปถึงไหม) ผมว่าพอเรารู้แค่ Root ผสมกับการฝึกสเกลจนชำนาญและคล่อง มันจะไปตามอารมณ์เลยครับ เหมือนมองทุกเฟรตทุกสายบนคอกีตาร์ออกเลยว่าอันไหนกดได้กดไม่ได้ กดแล้วจะหลุดคีย์หรือไม่ .. ทีนี้ก็อยู่กับการผสมคำอย่างที่น้าเบียร์บอก มันต้องเล่นออกมาให้มีจังหวะจะโคลน มีสำเนียงเหมือนการพูด พูดมั่ว ๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่อง พูดดังไปก็ดูดุดัน พูดเบาไปก็ดูงุ๊งงิ๊ง ๆ เหมือนบ่นพรึมพรำ คนดนตรีจะเรียกกลุ่มโน๊ตที่เล่นออกมาว่า "วลี" ครับ เหมือนคำพูดคนทั่ว ๆ ไปเลย ผมว่าการ improvise ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากคือ improvise ยังไงให้สำเนียงออกได้ตามอารมณ์ที่คนอื่นเล่น..
เช่น เราไปแจมกับวงอื่นเค้าเล่น Bossa แต่กลิ่นคอร์ดมา Jazz จ๋า ๆ เราไปปั่น Pentatonic เป็นหินเหล็กไฟ มันก็ไม่ใช่ ผมยังยืนยันคำเดิมครับ ว่าดนตรีที่มีเสน่ห์คือเล่นออกมาให้เป็นธรรมชาติ แต่การจะทำให้เป็นธรรมชาติได้นั้นสิ่งสำคัญคือ "การฝึกซ้อม" ทำเข้าไปเถอะ เยอะ ๆ ไม่เสียหาย ถ้าฝึกซ้อมเยอะแล้วน้ำมันจะท่วมมิดหลังคาเร็วขึ้น ผมจะเลิกฝึกเป็นเพื่อนคุณ 5555
ปล. โทดทียาวไปหน่อย ความเห็นส่วนตัวนะคร้าบ หลายท่านอาจคิดต่างแล้วมีประโยชน์กว่าก็ขึ้นกับแต่คนละครับ ของแบบนี้ไม่เหมือนกัน คิดซะว่าแชร์ประสบการณ์นะครับ